เมื่อวันที่ 19 ก.ค. นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า หลังจากเดินทางไปยังวัดบางคลาน เพื่อตรวจความเรียบร้อยภายในวัด ปรากฏว่า ยังพบว่ามีชาวบ้านกลุ่มที่คัดค้านเจ้าอาวาสองค์ใหม่ ยังอยู่ในวัด แม้ประตูวัดบางคลาน เปิด แต่เจ้าอาวาสองค์ ใหม่ และไวยาวัจกร เข้าวัดไม่ได้ ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดคำสั่งศาล เนื่องจากศาลนั้นมีคำสั่งไม่ให้ขัดขวางการเจ้าอาวาสองค์ใหม่ โดยบุคคลมีชื่อถูกฟ้องยังอยู่ในวัด วันนี้ตนได้สั่งให้นายอำเภอ นำคำสั่งศาลไปติดที่วัด เพื่อประกาศให้ชาวบ้านทุกคนรู้ ตามคำสั่งของศาลจังหวัดพิจิตรแล้ว

นายพยนต์ กล่าวต่อว่า อยากให้ตำรวจเร่งทำงานเพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มในที่เกิดเหตุและในวัด ซึ่งตนได้รับรายงานว่ามีของกลางที่ใช้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ซุกซ่อนในวัด ทางตำรวจเองต้องเร่งทำงาน เร่งตรวจสอบให้ละเอียดและเร่งจับผู้ก่อเหตุที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ให้หมด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง อย่าให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย และอยากให้ตำรวจให้ความร่วมมือมากกว่านี้ เกิดเหตุซึ่งหน้าแล้วยังไม่จับ เมื่อวานนี้เท่าที่ทราบจากผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เรียก ผกก.โพทะเล และพนักงานสอบสวนโพทะเล เข้าไปพบ หลังจากเกิดเหตุ ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชรษฐ์ ได้สั่งการให้ตำรวจแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกลุ่มต่อต้านเจ้าอาวาส เข้าวัดบางคลาน ที่ใช้ความรุนแรง

“นอกจากนี้ได้ถามความคืบหน้าในคดีชายชุดดำที่บุกเข้าไปทำร้ายชาวบ้าน ไวยาวัจกรวัด หากไม่ทำคดี ผมจะให้ตำรวจกองปราบและดีเอสไอ เข้ามาทำคดีแล้ว ซึ่งผู้การบอกว่า ตำรวจส่งฟ้องแล้วคดีชายชุดดำทั้ง 21 คน เหลือ 2 คน คือ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. และนายดุศิต คำศิลา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.บึงนาราง ไม่มาตามหมายเรียก ซึ่งตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อเตรียมส่งฟ้อง.