เมื่อวันที่ 20 ก.ค. นายสุเมธ เมธีรัตนาพิพัฒน์ นายอำเภอโพทะเล จ.พิจิตร เปิดเผยว่า หลังจากทางจังหวัดและทางอำเภอทวงวัดคืนให้กับพระครูสิทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดบางคลาน จ.พิจิตร จนเป็นเหตุให้ชาวบ้านที่อยู่ฝ่ายอดีตเจ้าอาวาสรูปเก่าที่มรณภาพไปแล้ว เกิดการต่อต้านและใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งการทวงคืนวัดในวันที่ 13 ก.ค. นั้นไม่สำเร็จ และการทวงคืนครั้งใหม่ยังไม่มีกำหนด หลังจากศาลพิจิตรมีคำสั่งคุ้มครองแล้ว

นายสุเมธ เปิดเผยต่อว่า สิ่งที่น่าจับตามองว่า มีกลุ่มบุคคลที่ยู่ในวัดยังระดมบุคคลแปลกหน้าเข้าวัด และมีการเพิ่มอาวุธเข้าไปในวัดอีกจำนวนมาก พร้อมที่จะสู้เจ้าหน้าที่ ซึ่งขณะนี้เก็บหลักฐานไว้แล้ว อยู่กับตำรวจที่จะต้องเร่งดำเนินการ และทางฝ่ายเจ้าอาวาสเองก็ต้องเก็บหลักฐานไว้ เนื่องจากถ้าเกิน 5 คนขึ้นไป จะเป็นการซ่องสุม ตอนนี้จะทำอะไรก็ต้องระวัง เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามนั้น มีอาวุธพร้อมที่ต่อสู้

“หลังจากศาลพิจิตร มีคำสั่งปลดแม่กุญแจและโซ่ออกจากประตูวัดและห้ามบุคคลดังกล่าว ห้ามขัดขวางเจ้าอาวาสวัด แต่ก็ยังมีจำเลยที่ถูกคำสั่งศาล ยังเข้าไปอยู่ในวัด และยังมีแกนนำที่มีรายชื่อที่ศาลสั่ง ก็ยังอยู่ในวัดหลายคน ตรงนี้เจ้าอาวาสรูปใหม่ต้องเอาจริง” นายอำเภอโพทะเล กล่าว

คำสั่งติดวัดบางคลานแต่กลุ่มต้านไม่สน ขอเร่งจับ ‘อย่าให้กฎหมู่อยู่เหนือก.ม.’

ด้านนายพร ปั้นเพ็ง ไวยาวัจกรวัดบางคลาน กล่าวว่า ขณะนี้ทางวัดบางคลานได้เตรียมรวบรวมเอกสารหลักฐานบัญชีทรัพย์สินของวัดบางคลาน ชี้แจงที่มาที่ไปต่อ พล.ต.อ.สุรเชรษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่จะเดินทางมาที่พิจิตรเพื่อตรวจสอบ นอกจากนี้ทางเจ้าอาวาสวัดบางคลาน ยังมอบหมายให้ทนายความยื่นถอนการประกันตัว กับบุคคลที่เคยอยู่ระหว่างคดีและบุคคลที่ศาลตัดสินคดีไปแล้ว แต่ก็ยังฝ่าฝืนอำนาจศาล ยังมาขัดขวางการเข้าไปของเจ้าอาวาสและคณะกรรมการ.