เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ร.ต.ท.(หญิง) พรสุพพัต นันต๊ะ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ รับแจ้งเหตุคนโดดตึกอาการสาหัส ที่โรงพยาบาลแพร่ อ.เมือง จ.แพร่ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เป็นตึกผู้ป่วยอายุรกรรม พบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อต่อมา คือ นายจิรพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี นอนจมกองเลือดอาการสาหัส โดยมีแพทย์และพยาบาลที่เข้าเวร ออกมาให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบกระเป๋าสะพายสีม่วง ด้านในมีไขควง โทรศัพท์ 2 เครื่อง จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

ด้านนายประเสริฐ ฉลอม รอง ผอ.ฝ่ายบริหารโรงพยาบาลแพร่ เปิดเผยว่า คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะตั้งใจมาคนเดียว สำหรับสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ช่วงที่เกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่เห็นเดินมาคนเดียว ก่อนมานั่งห้อยขาอยู่ที่ชั้น 5 จากนั้นก็กระโดดลงมาเลย

จากการสอบสวนนางสงกรานต์ กล้าหาญ อายุ 42 ปี อดีตแม่ยายคนเจ็บ เล่าว่า นายจิรพงศ์ มีอาชีพเป็นช่างทั่วไป มีภรรยาและลูก 2 คน คนโตเป็นผู้หญิง คนเล็กเป็นผู้ชาย และเลิกรากับภรรยาไปเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ก็ยังติดต่อกันอยู่เรื่องลูก ถ้ามีปัญหาอะไรก็ช่วยกันดูแล ต่อมาลูกคนเล็กไม่สบาย จึงติดต่อให้นายจิรพงศ์ มารับให้พาลูกไปหาหมอ แต่ตนดูท่าทางนายจิรพงศ์ แล้วมีอาการลุกลี้ลุกลน ตนจึงเปลี่ยนใจโทรฯ ตามให้ลูกสาวมาดูและมารับหลานไปแทน ก่อนจะแยกจากกัน นายจิรพงศ์ได้พูดกับลูกสาวตนว่า ดูแลลูกด้วยนะ ลาก่อน บายๆ ลูกตนยังตอบกลับไปว่า ทำไมพูดแบบนั้น ไม่อยู่กับลูกแล้วหรือ ไม่ห่วงลูกหรือ จากนั้นก็แยกย้ายกันไป จนมาทราบข่าว

ต่อมา นายชุติเดช มีจันทร์ ผวจ.แพร่ ได้สั่งการให้ นายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ นายอำเภอเมืองแพร่ พร้อมปลัดอำเภอ เข้าร่วมตรวจสอบสาเหตุ โดยเบื้องต้น นพ.วิชิน โชติปฏิเวชกุล ผอ.โรงพยาบาลแพร่ ได้เปิดห้องประชุม เพื่อร่วมกันตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นพ.วิชิน ได้เปิดเผยหลังประชุมว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุไม่ใช่ผู้ป่วยและไม่ใช่ญาติของผู้ป่วย และไม่เคยมีประวัติมารักษาที่โรงพยาบาลแพร่ มาก่อเหตุ โดยกระโดดลงมาจากชั้น 5 ของอาคาร อาการสาหัส ไม่สามารถหายใจเองได้ ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าขึ้นไปชั้น 5 ได้อย่างไร หลังจากนี้เราจะมีมาตรการที่เข้มงวดขึ้น.