เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่อาคารไทยซัมมิท นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ส.ส. พรรคก้าวไกล ถึงกรณีการยกเลิกประชุม 8 พรรค ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ว่า ได้รับแจ้งจากพรรคเพื่อไทยว่าภารกิจที่ได้รับมอบหมายไปยังมีความคืบหน้าไม่มากเท่าที่ควร ส่วนจะมีการนัดประชุมอีกครั้งเมื่อไรนั้น ทางพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้แจ้ง เพราะประกอบกับคิดว่าน่าจะมีการเลื่อนประชุมรัฐสภาในสัปดาห์นี้ไปด้วย เพราะล่าสุดเราเพิ่งได้รับแจ้งจากทางสภาว่าการประชุมวิป 3 ฝ่าย ในวันที่ 26 ก.ค. ก็ของดไปแล้ว และมีความเป็นไปได้ที่ทางประธานสภาก็จะงดการประชุมวันที่ 27 ก.ค.ไปด้วย ส่วนด้วยเหตุผลอะไรยังไม่ได้รับการแจ้ง

เมื่อถามว่าตอนนี้เริ่มมีท่าทีที่พรรคไทยสร้างไทยไม่สนับสนุนการแก้มาตรา 112 เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า “ไม่หรอกครับ ผมคิดว่าสิ่งที่เราได้กันมาโดยตลอดตั้งแต่ตอนทำเอ็มโอยูก็คือเรื่อง 112 ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อตกลงในการร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว” เมื่อถามว่านาทีนี้ 8 พรรคยังจับมือกันแน่นอยู่ใช่หรือไม่ เพราะมีข่าวว่าข้าวต้มมัดเริ่มปริ นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าไปสรุปแบบนั้น

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่าอาจจะขอให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำทำเอ็มโอยูใหม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนคิดว่ารอฟังจากพรรคเพื่อไทยดีกว่า เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยส่งสัญญาณอะไรมาหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่มีการส่งสัญญาณมา ส่วนถ้าต้องทำเอ็มโอยูไหมเราพร้อมหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องดูในรายละเอียด เพราะตนคิดว่าการที่พรรคเพื่อไทยของเลื่อนประชุมไปก่อน ก็สะท้อนว่ายังมีความพยายามหาทางออกต่างๆ ให้ดีที่สุดในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน

เมื่อถามถึงกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่าเคยเสนอตำแหน่งรองนายกฯ ให้ นายชัยธวัช กล่าวว่า “นั่นเป็นช่วงต้นที่เราเริ่มจัดตั้งรัฐบาล แม้ว่าพรรคของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะมีแค่เสียงเดียว แต่ทางพรรคก้าวไกลเราก็เห็นท่านเป็นผู้ใหญ่ มีประสบการณ์ เราก็ให้เกียรติคนเป็น เราก็คิดว่าท่านจะสามารถมาช่วย แม้จะมี 1 เสียง แต่ก็สามารถมาช่วยภารกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะทางด้านการปราบปรามการทำผิดกฎหมายที่สำคัญ ๆ ก็ถือว่าเป็นการให้เกียรติกัน” เมื่อถามว่าดูท่าทีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตอนนี้ยังยืนยันให้พรรคก้าวไกลเสียสละ นายชัยธวัช กล่าวว่า อันนี้ขึ้นอยู่กับการพูดคุย 8 พรรค เมื่อถามว่าท่าทีของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ดูสวนทางกับเอ็มโอยู 8 พรรค จะทำให้เกิดปัญหาเกิดขึ้นในอนาคตหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนไม่กังวล

เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคก้าวไกลการประสานกับสว.มีสัญญาณอะไรดีๆ เกิดขึ้นบ้างหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า  ก็ได้พูดคุยกับท่านสว.ซึ่งในคราวที่แล้วไม่ได้โหวตให้กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็มีสัญญาณหลายท่านว่าคราวนี้ก็พร้อมจะโหวตเมื่อมีการเปลี่ยนนายกฯ แล้ว แม้ว่าพรรคก้าวไกลยังร่วมรัฐบาลอยู่ เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ในการให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการทุกอย่างในการจัดตั้งรัฐบาล แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น หรือเราต้องมีข้อเสนอแลกเปลี่ยนกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ในการประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลครั้งที่แล้ว หลังจากพรรคก้าวไกลส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล ก็ได้คุยกันว่าให้พรรคเพื่อไทยไปหาแนวทางและนำมาเสนออีกครั้งในที่ประชุม เมื่อถามว่าเรายังไว้ใจพรรคเพื่อไทยในการให้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลครั้งนี้ใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า การทำงานร่วมกันก็ต้องมีความไว้วางใจกัน

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลยังยืนยันและได้บอกกับทางพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่าจะไม่ร่วมกับพรรค 2 ลุง นายชัยธวัช กล่าวว่า จริงๆ ทางพรรคเพื่อไทยก็น่าจะทราบจากข่าวแล้วว่ามติที่ประชุม สส.พรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร แต่หากมีการประชุม 8 พรรคในวันนี้ก็คงได้แจ้งอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามพรรคก้าวไกลยังยึดมั่นในเป้าหมายสำคัญที่สุดก็คือการพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้ 8 พรรคการเมืองให้สำเร็จ ตามเจตจำนงที่ประชาชนได้แสดงออกไปแล้วผ่านการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคภูมิใจไทยสามารถร่วมงานกันได้หรือไม่ เพราะวันนี้ได้มีการยื่นตรวจสอบนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมช.คมนาคม  นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องรอข้อเสนอของทางพรรคเพื่อไทย ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับพรรคเพื่อไทยด้วยว่า พรรคเพื่อไทยแม้จะมีการเชิญหลายๆ พรรคการเมืองมาพูดคุยกัน แต่พรรคเพื่อไทยก็ยังยืนยันว่าไม่ใช่การ่วมจัดตั้งรัฐบาล เพียงแต่มารับฟังความคิดเห็น

เมื่อถามว่ามีความกังวลในเรื่องการเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลที่อาจจะตกไปอยู่ที่พรรคอันดับ 3 หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คือตนไม่ค่อยกังวล ถ้าเกิด 8 พรรคการเมือง โดยเฉพาะก้าวไกลกับเพื่อไทยจับมือกันแน่น  การพลิกขั้วรัฐบาลมันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ  ยิ่งการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ตนก็ยังเชื่อว่าจะไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภา เมื่อถามย้ำว่าแล้วยังจับมือกันแน่นอยู่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องพยายาม 8 พรรคการเมืองจับมือการแน่นคือประชาชน

เมื่อถามว่าหากศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณาคำร้องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตีความข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 41 พรรคก้าวไกลจะมีโอกาสเสนอโหวตแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคอีกหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ก่อนตนต้องพูดว่าพรรคก้าวไกลเรามีจุดยืนมาโดยตลอดว่าอะไรที่เป็นอำนาจของสภาอยู่แล้ว เราก็ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจเหนือสภา ดังนั้นต้องยืนชัดตรงนี้ก่อน ว่าทำไมส.ส.ของก้าวไกลจึงไม่ไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่มีคนเสนอเยอะแยะ แต่เมื่อมีคนยื่นไปแล้วก็คงต้องรอดูว่าศาลจะรับไว้หรือไม่ ซึ่งศาลอาจจะไม่รับก็ได้ เพราะศาลอาจจะอ้าง เช่น เรื่องผู้ร้องไม่ใช่ผู้เสียหายก็ได้ หรือไม่ใช่อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะมาแทรกแซงมติของสภาในเรื่องนี้ก็ได้ ซึ่งเป็นหลักการที่ดี เพียงแต่ว่าเรื่องนี้แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับไว้ ตนยังเชื่อว่าสภายังมีทางออกอื่น ซึ่งอันนี้คงต้องหารือประธานรัฐสภาต่อไปว่า เมื่อมันมีความเห็นอย่างชัดเจนมาก นักกฎหมายทั่วประเทศก็ทำความเห็นออกมาอย่างชัดเจนว่ามติของสภาในเรื่องการตีความข้อบังคับอย่างนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ ตนคิดว่ามันน่าจะมีทางออกที่สภาจัดการตัวเองได้ ซึ่งต้องหารือกันต่อไป

เมื่อถามว่ายังมีความหวังกับเรื่องนี้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่จะปลดล็อกมติที่พรรคก้าวไกลเองก็เห็นว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะว่ามันจะเป็นข้อจำกัดต่อการเลือกนายกฯ ซึ่งไม่ว่าแคนดิเดตนายกฯ จะมาจากก้าวไกล เพื่อไทย หรือพรรคอื่น มันควรจะเสนอชื่อได้ ครั้งแรกเราอาจจะได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.ไม่พอ แต่ครั้งต่อๆ ไปมันก็อาจจะมากขึ้นตามลำดับได้ เป็นต้น ดังนั้นจึงควรปลดล็อกในเรื่องนี้เราเห็นด้วย แต่ไม่จำเป็นต้องไปใช้ช่องทางศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น ตนเชื่อว่าถ้าประธานสภา ปรึกษาหารือฝ่ายกฎหมายดีๆ เราอาจจะมีทางออกอื่น  ส่วนจะหารือกันในสภาหรืออย่างไรนั้น ตนก็ยังไม่ทราบ แต่คิดว่ากระบวนการประชาธิปไตยมันต้องมีทางออก มันจะไปตีความว่าทุกอย่างนำไปสู่ทางตันไม่ได้

เมื่อถามย้ำว่ามองอย่างไรกับข้อเสนอให้เลื่อนการโหวตนายกฯ ออกไป 10 เดือนจนกว่า ส.ว.จะหมดวาระ นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องข้อเสนอให้รอ 10 เดือน ตนว่ามันสะท้อนความรู้สึกของประชาชนจำนวนไม่น้อย ที่รู้สึกว่าเขารอได้เพื่อแลกกับการจัดตั้งรัฐบาลที่มันเป็นไปตามความต้องการของเขา อย่างไรก็ตาม 10 เดือนก็อาจจะนานไปเหมือนกัน ดีที่สุดก็คือหากระบวนการเลือกนายกฯ ให้ได้ โดยที่ไม่ต้องลากไปถึง 10 เดือน มันยังไม่ได้ไปถึงทางตันขนาดนั้น

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ถ้ามันมีการปลดล็อกเรื่องการตีความข้อบังคับ ก็จะช่วยได้มาก มันอาจจะไม่ได้เร็วมาก เช่น ใช้เวลา 1 สัปดาห์เสร็จ อาจจะใช้เวลามากสักหน่อย แต่ถ้าเกิดสามารถจัดตั้งรัฐบาลที่มีความชอบธรรมทางการเมืองได้ เป็นที่ยอมรับของประชาชน มีเสถียรภาพทางการเมือง แล้วสามารถที่จะเป็นรัฐบาลที่มีศักยภาพที่จะฟื้นฟูประชาธิปไตยกลับมา คิดว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการที่สุด แต่อย่าไปสรุปว่าถ้าไม่รีบไปจับมือกับขั้วอำนาจเดิม จะไม่สามารถสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ต้องรอไป 10 เดือน อย่าเพิ่งไปสรุปอย่างนั้น ตนเชื่อว่า 8 พรรค โดยเฉพาะก้าวไกลกับเพื่อไทยยังจับมือกันแน่นมันไม่มีทางเกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้ สุดท้ายก็ยังเชื่อว่าถ้าถึงจังหวะหนึ่ง สว.น่าจะมีวิจารณญาณมากพอที่ไม่ต้องการฝืนความรู้สึกของสังคม และต้องช่วยกันหาทางออกให้กับการเมือง

เมื่อถามว่าถ้าแนวทางไม่เป็นไปอย่างที่หวังพรรคก้าวไกลจะดีดตัวออกมาเองหรือต้องรอการกดดันจากพรรคอื่น นายชัยธวัช กล่าวว่า ก้าวไกลยังพยายามให้ดีที่สุดที่จะจัดตั้งรัฐบาลตามการเลือกตั้งให้ได้ เมื่อถามว่าถ้าสุดทางแล้วจะให้พรรคเพื่อไทยเชิญออกมาหรือจะตัดสินใจถอยออกมาเป็นฝ่ายค้านเอง นายชัยธวัช กล่าวว่า วันนี้ที่ก้าวไกลได้ส่งไม้ต่อให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ถ้ามันจำเป็นต้องเลือก ถ้าถึงสถานการณ์นั้นจริงๆ ไม่มีทางออกอื่น ตนก็คิดว่าก็เป็นสิทธิ์ที่เพื่อไทยจะเลือกว่าจะเลือกสมการในการจัดตั้งรัฐบาลแบบไหน สิ่งที่ก้าวไกลเลือกก็คือว่าเราเลือกที่จะทำให้ดีทีสุดเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลตามเจตจำนงของประชาชนเกิดขึ้นให้ได้ เมื่อถามว่าถ้าเขาเลือกสมการนั้นแล้วเราจะยอมเดินออกมาเองหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า  ก็ต้องรอฟังจากพรรคเพื่อไทย.