จากกรณีการเสียชีวิตอย่างมีปริศนาของนายระพิน ดิษทับ ผอ.กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ เทศบาลเมืองกำแพงเพชร ถูกพบเป็นศพ แขวนคอตายเปลือยกายใต้ต้นมะยม ซึ่งทางญาติต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่น่าเป็นไปได้ พร้อมจี้ตำรวจให้เร่งตรวจสอบคลี่ปมการตาย หวั่นจะเป็นการฆาตกรรม โดยจะมีการเลื่อนพิธีพิธีฌาปนกิจออกไปอย่างไม่มีกำหนด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่ศาลาบำเพ็ญกุศลศพ วัดบาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร นางรัตติกร ดิษทับ ภรรยาของนายระพิน ดิษทับ ผอ.กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ เทศบาลเมืองกำแพงเพชร พร้อมญาติและเพื่อนของผู้ตาย ได้ร่วมกันพิธีบำเพ็ญกุศลในช่วงเช้าเป็นวันสุดท้าย ซึ่งกำหนดการเดิม จะมีพิธีฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตในช่วงบ่ายวันนี้ แต่เนื่องจากผลการสอบสวนยังไม่ได้สรุปผลหรือมีความชัดเจนถึงสาเหตุการตาย ทางครอบครัวจึงได้มีการเลื่อนวันเผาอย่างไม่มีกำหนดกำหนด พร้อมได้มีการเคลื่อนย้ายศพของนายระพิน ไปฝากไว้ยังโรงพยาบาลกำแพงเพชร
นางรัตติกร กล่าวว่า สรุปผลการหารือภายในครอบครัว จะยกเลิกพิธีฌาปนกิจสามีออกไป เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดี สรุปหาสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ให้ได้ก่อน เพราะว่าตนเอง ครอบครัว และเชื่อว่าคนที่ติดตามข่าวอีกหลายคน ยังไม่ปักใจเชื่อว่าสามีจะฆ่าตัวตาย เนื่องจากกำลังตั้งใจอ่านหนังสือสอบเลื่อนระดับตำแหน่งที่สูงขึ้น มีการนัดกับลูกจะไปทำบุญร่วมกัน รวมถึงมีการพบปะกับเพื่อนฝูงอย่างปกติ พร้อมทั้งลักษณะการฆ่าตัวตาย ที่ผิดจากปกติวิสัยของสามีที่จะกระทำเช่นนั้น
ภรรยา ‘ผอ.กองยุทธศาสตร์’ ประกาศเลื่อนเผาศพ แจงยังคาใจการตายสามี-ไม่เชื่อผูกคอเอง
นางรัตติกร กล่าวต่อว่า หลังจากนำร่างฝากยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อรอฟังผลพิสูจน์ออกมา ถ้าอาจจะมีการผ่าพิสูจน์เพิ่มเติมก็ยินดี ส่วนในทางคดีวันนี้ ชุดคลี่คลายคดีก็ยังไม่ได้ให้คำตอบอะไรกับตน หลังจากเรียกไปสอบปากคำหลายครั้ง แต่กับลูกชายนั้น ตนก็ยังไม่ได้คุยรายละเอียดกันเลยว่า ตำรวจได้บอกอะไรกับลูกชายบ้าง เท่าที่พอจะสรุปได้ คือการพยายามบอกให้ยอมรับว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ทั้งนี้ ตนเองเชื่อว่าตำรวจก็ตั้งใจทำงาน แต่ก็อยากจะให้ช่วยทำความกระจ่างในคดีนี้ ช่วยติดตามทุกข้อสงสัย โดยเฉพาะตามจุดหรือตามหลักฐานต่างๆ ที่ออกไปตามสื่อ
“ต้องขอบคุณตำรวจบางท่าน ที่ดูแลใส่ใจเรา โดยเฉพาะตำรวจภูธรภาค 6 แต่หากจะให้ดี มีความเชื่อมั่นมากกว่านี้ ตนเองอยากจะให้ ตำรวจสอบสวนกลางหรือกองปราบ ลงมาทำคดีด้วยตนเอง ซึ่งผลจะเป็นอย่างไร หากมีการชี้ชัดออกมา ตนเองก็ยินดีที่จะน้อมรับ เพื่อให้เกิดความกระจ่างแจ้งทั้งตนเอง ครอบครัว รวมไปถึงในอีกหลายคนที่ติดตามข่าว และมีข้อสงสัยที่ไม่แตกต่างกับตน และจะได้นำร่างของสามีไปดำเนินการทำตามประเพณีต่อไป” นางรัตติกร กล่าว
นางรัตติกร กล่าวต่ออีกว่า ส่วนกรณีที่มีตัวละครคือเพื่อนหญิงที่สนิทกับสามี จริงแล้วไม่อยากจะพูดถึง แม้จะโกรธ โมโหหรือน้อยใจมากน้อยสักเพียงใด วันนี้ก็ไม่น่าจะเกิดประโยชน์ เพราะวันนี้สามีได้เสียแล้ว และหากย้อนกลับไปถึงวันดีๆ ที่ได้อยู่ด้วยกัน เมื่อหักล้างดูแล้ว ความดีของสามีมีมากกว่า เขามีความรัก มีความรับผิดชอบต่อครอบครัวอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ก็ถือเป็นสิ่งที่ทุกคนพึงพอใจในขณะที่มีชีวิตอยู่ด้วยกัน วันนี้เพียงแค่อยากเห็นความจริง โดยเฉพาะสาเหตุของการตายว่าพี่เขาน้อยใจ หรือมีใครมาทำให้เขาต้องตาย หรืออาจจะมีใครออกมาช่วยพูดความจริงบ้างก็พอแล้ว.
