จากกรณีโลกออนไลน์ มีการแชร์เรื่องราวของ “ป้าต้อย” หรือ “นายสมชาย ยิ่งสุ่น” อายุ 64 ปี ซึ่งมีลักษณะกระตุ้งกระติ้ง แต่งตัวในแต่ละวันดูขำขัน อารมณ์ดี ประแป้งขาวเต็มหน้า บางวันก็สวมมงกุฎชฎา เข็นรถเข็นขายขนมใส่ไส้ จนเป็นที่ฮือฮารู้จักกันดีของชาวนนทบุรี เรียกติดปากกันว่า “ป้าต้อย ขนมใส่ไส้” มีลูกค้าผ่านไปมาแถวท่าน้ำหอนาฬิกาเมืนนทบุรี ต่างพากันอุดหนุน ช่วยกันซื้อขนมใส่ไส้ป้าต้อยด้วยความสงสาร ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวป้าแกสติสตังไม่ค่อยสมประกอบ แต่ก็เป็นคนที่ตั้งใจทำมากินไม่มีวันหยุดแม้แต่วันเดียว และเป็นเรื่องที่น่าโศรกเศร้า เมื่อ ‘ป้าต้อย’ พ่อค้าคนดังขายขนมใส่ไส้ ซุปตาร์คนดังท่าน้ำนนท์ ที่คุ้นหน้าคนนนท์ โดนรถชนเสียชีวิต ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องได้ออกมาเล่าเรื่องราวในคืนเกิดเหตุ

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 5 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายอ้วน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของป้าต้อย และรู้จักกับป้าต้อยมาเป็นเวลานานกว่า 20 ปี โดยนายอ้วน เล่าว่า ป้าต้อยเป็นคนดี ในแต่ละวันป้าต้อยก็จะโทรฯ สั่งขนมใส่ไส้เพื่อที่จะเอามาขาย พอช่วงสายแต่ละวันก็มีคนเอาขนมใส่ไส้มาส่งให้ป้าต้อย แล้วป้าต้อยก็จะเอาขนมใส่รถเข็น เข็นไปขายทั่วๆ ไป พอช่วงบ่ายบางวัน ป้าต้อยก็จะเข็นรถเข้ามาที่ใต้สะพานพระราม 5 เพื่อที่จะเข้ามานอนพัก และคุยหยอกล้อกับเพื่อนบ้าน จะเป็นแบบนี้ตลอด

โดยเมื่อวาน (4 ส.ค.) ที่ผ่านมา ป้าต้อยได้ถามกับตนว่า เผาศพน้องจบวันไหน ซึ่งพี่จบเป็นคนที่ป้าต้อยรู้จัก ตนเลยบอกไปว่าเผาพรุ่งนี้ (คือวันนี้) แล้วป้าต้อยก็บอกกับตนว่า “เดี๋ยวไปด้วย” ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าป้าต้อยจะพูดคำสุดท้ายแบบนี้กับตน พอเมื่อคืนที่ผ่านมา มีคนโทรฯ มาบอกว่า ป้าต้อยถูกรถชนตาย ตนตกใจมาก อยากบอกป้าต้อยว่าไม่ต้องห่วงอะไร หลับให้สบาย ให้ไปสู่ในภพภูมิที่ดี

ด้าน พ.ต.ต.ณัฐพัชร์ วิริยาลัย สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เจ้าของคดีป้าต้อยถูกรถชนเสียชีวิตว่า คู่กรณีที่ขี่รถชนป้าต้อย คือนายทักษิณ อายุ 27 ปี หนุ่มพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง คืนเกิดเหตุวันที่ 4 สิงหาคม 66 ขี่ จยย. ยี่ห้อ Grand Filano ทะเบียน 4ขต 9896 กรุงเทพมหานคร มีน้องสาวซ้อนท้าย พุ่งเฉี่ยวชน ป้าต้อย ขณะเข็นรถสวนมา จนบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนนายทักษิณ กับ น้องสาว ก็ได้รับบาดเจ็บนอนอยู่โรงพยาบาลเช่นกันขณะนี้ ทางคดีจึงยังไม่สามารถสอบปากคำผู้บาดเจ็บได้ ส่วนป้าต้อยก็ทราบว่าเสียชีวิตแล้ว หลังคนเจ็บออกจากโรงพยาบาล ทางตนก็จะนัดสอบปากคำเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

ด้านนายทักษิณ คู่กรณีป้าต้อย หลังกลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน ได้กล่าวขอโทษ ไม่สะดวกให้บันทึกภาพ เนื่องจากว่าตนเองยังนอนเจ็บ พันแผลทั้งตัวระโยงระยางบนเตียง ส่วนน้องสาวนั้นบาดเจ็บเล็กน้อย คืนเกิดเหตุ ตนยอมรับว่ามันเป็นที่อับและมองไม่เห็นป้าต้อยจริงๆ ตนขี่ จยย. ไปรับน้องสาวทุกวัน ไม่คิดว่าจะมาชนเขา มาทราบจากสื่อว่า ตอนนี้ป้าต้อยแกเสียชีวิตแล้ว ตนก็รู้สึกเสียใจมาก