จากกรณี โกดังเก็บดอกไม้ไฟ บ้านมูโนะ หมู่ที่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ระเบิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ขณะที่บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ทางราชการและหน่วยงาน ต่างระดมกำลังเข้าไปช่วยเหลือกันอย่างต่อเนื่อง ตามที่ปรากฏเหตุกาาณ์ไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก มีผู้ป่วยจำนวน 10 ราย โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ เมื่อแพทย์ทำการรักษาหายเป็นปกติ จึงอนุญาตให้กลับไปรักษาตัวที่บ้านพัก ซึ่งขณะนี้เหลืออยู่เพียง 1 ราย คือ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 12 ขวบ นักเรียนชั้น ป.6 ซึ่งได้รับบาดเจ็บ จากเศษกระจกตกกระเด็นใส่ดวงตาข้างซ้าย

ล่าสุดแพทย์ได้แจ้งกับ นายเอ (นามสมมุติ) พ่อของ ด.ญ.บี แล้วว่า ให้ทำใจเกี่ยวกับดวงตาของลูกสาว เพราะตาเริ่มบอดมองไม่เห็นแล้ว ทำให้นายเอ รู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก ภายหลังเปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุ ตนอยู่กับบ้านครอบครัว ประมาณ 3 โมงเย็น โกดังก็ระเบิดขึ้น ทำให้ฝาผนังพังถล่มลงมาทับคนในบ้านจนหมด แม้ทุกคนจะรอดมาได้ แต่ลูกสาวอาการสาหัส ตาข้างหนึ่งโดยเศษกระจกทิ่ม ตนเห็นแล้วอยากเจ็บแทนลูก ไม่รู้จะปลอบใจลูกอย่างไร ได้แต่บอกว่าหมอจะรักษาให้ดีที่สุด

ขณะที่ความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีนี้ เปิดเผยว่า ล่าสุดผู้ได้รับความเสียหาย ได้ทยอยเดินทางมาให้ปากคำแล้วในเบื้องต้นกว่า 600 ราย จากยอดผู้เสียหายเกือบ 2,000 คน และให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเพียงประมาณ 30 คน ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ละแวกจุดที่ตั้งของโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด

รางงานข่าวจากแหล่งข่าว ล่าสุด พบว่า 1 ใน 3 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว และทางพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวชั้นพนักงานสอบสวน ที่นำไปฝากขังที่ศาล จ.นราธิวาส คือ นายปฐมพร พรหมสกุล หรือ ธรรม ซึ่งเป็นผู้รับเหมานำช่างเข้าไปต่อเติมภายในโกดัง ก่อนที่โกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด โดยได้ใช้หลักทรัพย์มูลค่า จำนวน 500,000 บาท ขอศาล จ.นราธิวาส ประกันตัวออกมา เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา เนื่องจากนายปฐมพร หลังเกิดเหตุไม่ได้นิ่งเฉย ได้มีการนำเงินจำนวนหนึ่งมอบให้ผู้เสียชีวิต และเมื่อพนักงานสอบสวนได้เชิญตัว ก็ให้ความร่วมมือพนักงานสอบสวนมาให้ปากคำที่เกี่ยวข้องทุกครั้ง ศาลจังหวัดนราธิวาส จึงได้พิจารณาให้ประกันตัว เนื่องจากไม่มีท่าทีว่าจะหลบหนี

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประเด็นเจ้าหน้าที่รับสินบนนั้น ได้มีการสอบสวนในทางลับแล้ว แต่เพราะบางหน่วยงานไม่ยอมให้ความร่วมมือ ทำให้ตำรวจต้องส่งหนังสือไปยังต้นสังกัดเพื่อแจ้งให้รับทราบ โดยบุคคลที่ถูกพาดพิง ต้องเดินทางไปให้ปากคำยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แทนการให้ปากคำในพื้นที่เกิดเหตุ.