เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 21 ส.ค. ที่อาคารรัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ได้พูดคุยหารือกับหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 12 พรรค โดย นพ.ชลน่าน อ่านแถลงการณ์เสร็จสิ้นแล้ว ได้เปิดให้สื่อมวลชนซักถาม โดยสื่อมวลชนสอบถามว่า หลักเกณฑ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีการยกร่างใหม่ทั้งฉบับ ยกเว้นหมวดสถาบันใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เจตจำนงของพรรคเพื่อไทย จะแก้รัฐธรรมนูญโดยจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ โดยมี สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 

เมื่อถามต่อว่า เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญเบื้องต้น พรรคร่วมรัฐบาลเดิมคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญครั้งที่แล้ว นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นคำถามที่ลงลึกในรายละเอียด เพราะการพูดคุยในพรรคร่วมรัฐบาล เป็นการพูดคุยในหลักการที่เป็นหลักการสำคัญ ส่วนรายละเอียดว่า ส.ส.ร. ต้องมีจำนวนเท่าไหร่นั้น คงต้องไปลงในรายละเอียดอีกครั้ง โดยจะเป็นวาระแรกในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะทำควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ

เมื่อถามถึงกรณีมีการแจ้งโควตาเก้าอี้รัฐมนตรี ที่แต่ละพรรคจะได้รับก่อนโหวตนายกฯ แสดงว่ามีการตกลงกันเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ว่าแต่ละพรรคจะได้คุมกระทรวงอะไรบ้าง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จากที่ได้แถลงไปที่ได้กำหนดสัดส่วนโควตารัฐมนตรีแต่ละพรรคเรียบร้อยแล้ว ส่วนรายละเอียดว่า แต่ละพรรคการเมืองจะได้กระทรวงอะไรบ้าง มีการตกลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะต้องผ่านกระบวนการนำรายชื่อขึ้นไปตรวจสอบคุณสมบัติและนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งทั้งหมดเป็นข้อตกลงที่ชัดเจนภายใต้เงื่อนไขที่เราทำงานร่วมกัน

เมื่อถามถึงท่าทีของ สว. เพียงพอที่จะส่งนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ ได้หรือไม่ หรืออยู่ในระหว่างการรวบรวมเสียง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขณะนี้เราได้ดำเนินการที่จะแสวงหาคะแนน หรือการตัดสินใจที่จะลงคะแนนให้กับนายเศรษฐา ซึ่งคณะทำงานได้ดำเนินการเรื่องนี้ อยู่ในขั้นที่เรามีความมั่นใจ และพึงพอใจในจำนวนที่เราได้รับ จึงมีความมั่นใจว่าในวันที่ 22 ส.ค. นี้ ไม่น่าจะเป็นปัญหา

เมื่อถามอีกว่า ในที่ประชุมพรรคร่วมมีการประเมินภาพลักษณ์ของรัฐบาลชุดใหม่อย่างไร หลังนายเศรษฐา ถูกโจมตีและไม่มาแสดงวิสัยทัศน์ 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การแสดงวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตนายกฯ เรายึดถือตัวรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเป็นหลัก ซึ่งหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภามีหน้าที่เลือกบุคคล ที่ไม่มีลักษณะต้องห้าม และมีคุณสมบัติตามที่พรรคการเมืองเสนอไว้ ซึ่งขั้นตอนนี้ ตนในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย การพิจารณาหรือคัดเลือกบุคคลที่สมควรได้เป็นนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ผ่านการกลั่นกรอง และผ่านการพิจารณามาอย่างถี่ถ้วน ฉะนั้นเรามั่นใจเรื่องคุณสมบัติ

เมื่อถามย้ำว่า มีแผนที่จะเปลี่ยนแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ หากนายเศรษฐาไม่ผ่าน นพ.ชลน่าน  กล่าวว่า ไม่มีแผน เรามั่นใจว่าผ่าน 

เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไม่ได้ลาออก หมายความว่าตอนนี้ยังจับมือกับพรรคลุงอยู่ใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรค พปชร. ทางพรรค พปชร. จะเป็นคนชี้แจงเรื่องนี้เอง

ด้านนายประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับพรรคใหม่ที่เรายังไม่นับรวมนั้น เนื่องจากเพิ่งติดต่อเข้าร่วมรัฐบาลเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ จึงนับเสียงจัดจำนวน 314 เสียงไปก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายประเสริฐ กล่าวแนะนำพรรคร่วมรัฐบาลที่ร่วมแถลงข่าวนั้น พรรคใหม่ ได้มายืนอยู่ร่วมเวทีแถลงด้วย นอกจากนี้ระหว่างที่พรรคเพื่อไทยแถลงข่าว ได้มีทีมงานของพรรคก้าวไกล ตะโกนถามอยู่ด้านหลังว่า “นพ.ชลน่าน จะลาออกกี่โมง” ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่ได้ตอบโต้อะไร.