สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีแห่งซาอุดีอาระเบีย พระราชทานสัมภาษณ์พิเศษกับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ของสหรัฐ มีเนื้อหาตอนหนึ่ง ว่ารัฐบาลริยาดยังคงเจรจาอย่างต่อเนื่องกับอิสราเอล เพื่อนำไปสู่การสถาปนา “ความสัมพันธ์ระดับปกติ” โดยการหารือดังกล่าว ได้รับความสนับสนุนจากสหรัฐ


อย่างไรก็ตาม เจ้าชายโมฮัมเหม็ดทรงเน้นย้ำ การปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของชาวปาเลสไตน์ เนื่องจากรัฐบาลอิสราเอลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ยังคงเดินหน้าการขยายอาณาเขตนิคมที่อยู่อาศัยของชาวยิว ในเขตเวสต์แบงก์


เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับอิหร่าน เจ้าชายโมฮัมเหม็ด ซึ่งเป็นที่ทราบกันดี ว่าทรงถือเป็น “ผู้ปกครองโดยพฤตินัยแห่งราชอาณาจักร” ตรัสว่า หากอิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ ซาอุดีอาระเบียต้องมีเช่นกัน แม้ทั้งสองประเทศกลับมาฟื้นฟูความสัมพันธ์ เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา โดยมีจีนทำหน้าที่คนกลาง


อีกด้านหนึ่ง นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า การสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิสราเอล “จะเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ” ให้กับภูมิศาสตร์การเมืองในตะวันออกกลาง

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีอิบราฮิม ไรซี ผู้นำอิหร่าน กล่าวว่า การสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่าน “คือการทรยศ” ต่อชาวปาเลสไตน์.

เครดิตภาพ : AFP