เมื่อวันที่ 27 ก.ย.66 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้รับความเห็นชอบจากกรมบัญชีกลาง ในการขอปรับขึ้นค่าตอบแทนหรือเงินเดือนของบุคลากรภายนอกที่ปฏิบัติงานให้กับกรมอุทยานฯ ตำแหน่งพิทักษ์ป่า จำนวน 13,419 อัตรา จาก 9,000 บาท เป็น 11,000 บาทต่อเดือน ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้ว นั้น

นายอรรถพลฯ กล่าวต่อไปว่า เรื่องดังกล่าวได้รับความห่วงใยจากพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีต่อเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯจึงได้มีการประชุมหารือเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเป็นการภายใน โดยได้ข้อสรุปพร้อมทั้งได้แจ้งในที่ประชุมผู้บริหารกรมอุทยานแห่งชาติฯในคราวประชุมเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ว่าได้วางแนวทางการปรับขึ้นเงินค่าตอบแทนให้กับเจ้าหน้าที่แบบขั้นบันได โดยเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอายุงานน้อยกว่า 5 ปี จะได้รับค่าตอบแทน จำนวน 9,500 บาท/เดือน มีจำนวน 5,941 อัตรา รวมเป็นจำนวนเงิน 451,516,000 บาท เจ้าหน้าที่ซึ่งมีอายุอายุงาน 5-15 ปี ได้รับค่าตอบแทน จำนวน 10,000 บาท/เดือน มีจำนวน 3,084 อัตรา รวมเป็นจำนวนเงิน 246,720,000 บาท เจ้าหน้าที่ซึ่งมีอายุงานมากกว่า 15 ปี ได้รับค่าตอบแทน 11,000 บาท/เดือน มีจำนวน 442 อัตรา รวมเป็นจำนวนเงิน 38,896,000 บาท สำหรับเจ้าหน้าที่จำนวน 9,467 อัตรา รวมเป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 737,132,000 บาท ซึ่งเป็นการปรับแผนงบประมาณภายในของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ระหว่างเดือนตุลาคม 2566 ถึงเดือนพฤษภาคม 2567 โดยใช้งบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อนที่จะรับการอนุมัติงบฯจากสำนักงบประมาณ

อย่างไรก็ตาม กรมอุทยานแห่งชาติฯได้มีความพยายาม ที่จะปรับปรุงเงินเดือนค่าตอบแทนของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าให้สอดคล้องกับค่าครองชีพในปัจจุบัน มีการเพิ่มสวัสดิภาพสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ให้ดีขึ้น ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการอนุมัติเงินอุทยานแห่งชาติและเงินเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ในกรณีที่เจ้าหน้าที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิต อันเป็นผลมาจากการพัฒนาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 เพื่อให้สามารถนำเงินในส่วนนี้มาใช้จ่ายให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย