เมื่อวันที่ 3 ก.ค. นายสมชาย แสวงการ สว. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ต่อกรณีที่พรรคก้าวไกล ขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก ฐานะรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ออกจากสมาชิกพรรคก้าวไกล เพื่อต้องการตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยตั้งข้อสังเกตว่า เป็นนิติกรรมอำพราง  และเป็นการกระทำที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกร้องว่า ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 42 ประกอบมาตรา 92(3)  ที่นำไปสู่การยื่นยุบพรรคได้ และเป็นการกระทำที่ได้ไม่คุ้มเสีย และมีการติดแฮชแท็กว่า การเมืองใหม่ต้องมีจริยธรรม

“การขับนายปดิพัทธ์ออกจากพรรคก้าวไกล เพราะต้องการรักษาเก้าอี้ รองประธานสภาคนที่1ไว้  คงเป็นเรื่องถกเถียงถึงความถูกต้องกันต่อไปอีก แต่มีประเด็นสำคัญที่พรรคก้าวไกลอาจหลงลืมหรือไม่  เพราะคำสั่งแต่งตั้งคนในพรรคก้าวไกล เป็นข้าราชการการเมืองและคณะกรรมการต่างๆ  ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่มีผู้นำไปร้องต่อ กรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อตรวจดูรายชื่อเบื้องต้นแล้วหลายคน ยังเป็นผู้บริหาร  กรรมการบริหาร และสมาชิกพรรคก้าวไกล  หากนับจากวันที่นายปดิพัทธ์ถูกขับ เมื่อ 28 ก.ย. จนถึงวันนี้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือปลดออก” นายสมชาย ระบุ

นายสมชาย ยังได้โพสต์คำสั่งแต่งตั้งข้าราชการฝ่ายการเมือง ลงนามโดยนายวันมูหะมัดนอร์  มะทา ประธานสภาฯ เมื่อ 21 ส.ค. ซึ่งแต่งตั้ง ข้าราชการฝ่ายการเมือง ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล 3 คน ทำงานในตำแหน่งต่างๆ  ซึ่งขึ้นตรงกับนายปดิพัทธ์ ได้แก่ พล.ต.ต.สุพิศาล ภัพดีนฤนาถ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นที่ปรึกษารองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ได้รับเงินเดือน เดือนละ 47,250 บาท และเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 10,000 บาท, นายพงษ์สรณัฐ ทองลี เลขานุการรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ได้รับเงินเดือนๆละ 44,310 บาท และเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 4,900 บาท และนายปกรณ์ อารีกุล สมาชิกพรรคก้าวไกล อดีตผู้สมัคร สส. นครศรีธรรมราช พรรคก้าวไกล เป็นผู้ช่วยเลขานุการรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ได้รับเงินเดือนๆละ 39,710 บาท และเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 3,780 บาท และคำสั่งของประธานสภาฯ ตั้งกรรมการขับเคลื่อนรัฐสภาโปร่งใสและสมรถนะสูง  ที่ปรากฏชื่อนายไกลก้อง ไวทยการ เป็นที่ปรึกษา , นางอมรัตน์โชคปมิตต์กุล ที่ปรึกษาประธานและที่ปรึกษารองประธาน และ น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค เป็นกรรมการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะกรรมการขับเคลื่อนรัฐสภาโปร่งใสและสมรรถนะสูง พบว่ามีนายปดิพัทธ์ เป็นประธานกรรมการ ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการประชุมและพิจารณาโครงการศึกษาดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา.