กรณีที่ น.ส.พลอย อายุ 19 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช เพิ่งเรียนจบ ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ตัดสินใจผูกคอตาย เนื่องถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินไปซื้อโทรศัพท์ไอโฟน ในระบบผ่อนจ่ายกับร้านค้าออนไลน์ และผ่อนจ่ายไปแล้วเกือบ 20,000 บาท แต่ยังไม่ได้โทรศัพท์ จนรู้ว่าถูกหลอก จึงตัดสินใจผูกคอเสียชีวิตในห้องนอนท่ามกลางความเศร้าสลดของพ่อแม่ ผู้ปกครองครองและญาติๆ รวมทั้งบรรดาเพื่อนๆ เหตุเกิดพื้นที่ สภ.เกาะทวด เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 66 กระทั่งมีการโอนคดีมาให้ บช.สอท.ดำจนมีการจะออกหมายจับผู้กระทำความผิด ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ผบ.ตร.สั่งโอนคดี เด็ก ม.6 ผูกคอถูกหลอกซื้อไอโฟนทิพย์ ให้ บช.สอท. ลั่นหมายจับออกบ่ายนี้!

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุสลดดังกล่าว พบว่าร้านโทรศัพท์ที่ปรากฏในข่าว พบว่ามีหน้าร้านอยู่จริง และขณะนี้เจ้าของร้านจริงกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะถูกมิจฉาชีพเอารูปร้านไปปลอมแปลงและลวงหลอก จนมีผู้คนหลงเชื่อไปติดกับดักและสูญเงินไปหลายราย ผู้สื่อข่าวจึงไปตรวจสอบพบว่า ร้านที่ถูกนำชื่อไปแอบอ้างได้รับความเสียหาย ชื่อร้าน Family phone ตั้งอยู่ใน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ โดยมี น.ส.ธัญญาลักษณ์ แสนคำ อายุ 27 ปี เป็นเจ้าของร้าน และเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กำลังเดินทางไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ จึงเดินทางไปสังเกตการณ์

ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ พบ น.ส.ธัญญาลักษณ์ นำหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อขอลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานว่า ทางร้านไม่ได้มีส่วนไปเกี่ยวข้องกับเหตุสลดที่เกิดขึ้นใน จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับยื่นภาพถ่ายหลักฐาน ทั้งรูปหน้าร้าน และเพจเฟซบุ๊กของร้านตัวจริง กับเพจเฟซบุ๊กปลอมที่มิจฉาชีพเอารูปร้านไปปลอมแปลงเปลี่ยนชื่อร้านใหม่ เพื่อแจ้งความกับตำรวจในการเอาผิดกับแก๊งมิจฉาชีพแก๊งนี้ด้วย

น.ส.ธัญญาลักษณ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้ร้านได้รับผลกระทบอยู่พอสมควร เนื่องจากตั้งแต่มีข่าวสลดเกี่ยวกับน้อง ม.6 ผูกคอฆ่าตัวตาย เพราะถูกมิจฉาชีพ เอารูปร้านเราไปทำเพจเฟซบุ๊กปลอมไปลวงหลอก มีโทรศัพท์โทรฯ เข้ามาสอบถามกับทางร้านเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) ตนต้องรับสายแทบไหม้ และต้องคอยอธิบายความจริงเกือบแทบจะทุกสาย ซึ่งส่วนตัวตอนแรกก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าถูกมิจฉาชีพเอารูปร้านไปปลอมแปลง กระทั่งมีคนมาสอบถาม และดูรายงานข่าว จึงทำให้รู้เรื่องราวทั้งหมด ซึ่งรู้สึกเสียใจ และเสียดายน้อง ม.6 คนนั้นเป็นอย่างมาก

“หนูยืนยันเลยนะ ร้านหนูไม่มีส่วนไปเกี่ยวข้องอะไรกับแก๊งมิจฉาชีพนี้เลย ซึ่งหนูก็ได้เดินทางไปแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้ดำเนินการเอาผิดกับแก๊งมิจฉาชีพแก๊งนี้ ที่ทำให้ร้านของหนูเสียหายแล้ว และก็อยากให้ตำรวจดำเนินการเรื่องนี้ โดยขอให้เร่งจับกุมคนร้ายแก๊งนี้ให้ได้โดยเร็ว เพราะหนูเสียใจกับเรื่องของน้อง ม.6 เขามาก และสงสารครอบครัวเขาที่ต้องมาสูญเสียลูกไป” น.ส.ธัญญาลักษณ์ ระบุ พร้อมกับกล่าวว่า “ร้านของตนเป็นศูนย์จำหน่ายโทรศัพท์มือถือและเป็นศูนย์ซ่อม เฉพาะของยี่ห้อไอโฟนโดยตรง ไม่จำหน่ายและซ่อมเครื่องของยี่ห้ออื่น ซึ่งก็มีจำหน่ายแบบให้ผ่อนกับทางร้านด้วยเช่นกัน แต่ก็ต้องเป็นผู้ที่มีอายุเกิน 18 ปีเท่านั้นนะ และก็ต้องมาติดต่อขอซื้อผ่อนกันที่ร้านโดยตรงเท่านั้น จ่ายเงินก็ต้องมาจ่ายกันที่ร้าน ไม่มีการพูดคุยกันผ่านออนไลน์ แล้วให้โอนเงินเด็ดขาด ซึ่งถ้าหากจะต้องการโอนเงินกันจริง บัญชีของร้าน ก็จะเป็นบ้านชีธนาคารชื่อร้านเพียงอย่างเดียวเท่านั้น” น.ส.ธัญญาลักษณ์ กล่าว