เมื่อวันที่ 20 ต.ค.รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณี น้องพลอย นักเรียนมัธยมปลาย ที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกขายไอโฟน โอนเงินไปแล้วไม่ได้ของ สุดท้ายน้องเครียดหนัก จนตัดสินใจจบชีวิตตัวเองเป็นข่าวน่าเศร้าในช่วงที่ผ่านมา

แม่บุญเยือน แม่ของน้องพลอยเล่าว่า น้องอยู่กับคุณตาคุณยาย ส่วนคุณแม่ทำงานอยู่อีกที่ ที่ผ่านมาก็จะพูดคุยกันตลอด ตามประสาแม่ลูก น้องพลอยมาบอกคุณแม่ว่า อยากจะได้อุปกรณ์เอาไว้เรียน มีไอโฟน ไอแพด เครื่องปรินต์ คุณแม่ก็ถามว่าอะไรที่จำเป็นมากที่สุด ให้เลือกมา 1 อย่าง คุณแม่จะซื้อให้ น้องพลอยก็เลือกไอโฟน

แม่กับน้องพลอยตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ว่าแม่จะเป็นคนซื้อมือถือไอโฟนให้น้องสิ้นเดือนนี้ ไม่ต้องให้ลูกไปหาเงินมาซื้อเอง แต่แม่ไม่รู้เลยว่าน้องพลอยไปซื้อไอโฟนเองผ่านทางช่องทางออนไลน์ จนสุดท้ายมาเกิดเรื่องเศร้าขึ้น

ขณะที่ เฟิร์น และ นิว เพื่อนสนิทของน้องพลอย เล่าว่า ก่อนจะเกิดเหตุ น้องพลอยมาเล่าว่า ไปเจอไอโฟน 13 มือสองลงขายในเน็ต เป็นไอโฟนสภาพดี แบตเตอรี่ยังสภาพดี 100% ไม่เสื่อม บอกว่าอยากได้ หลังจากนั้น 1 วัน พลอยก็มายืมเงินเฟิร์น กับ นิว บอกว่าจะเอาไปผ่อนโทรศัพท์

แต่สักพัก เหมือนพลอยโอนเงินไปหลายครั้งแต่ไม่ได้ของ ทางร้านก็บอกให้โอนไปใหม่เรื่อยๆ อ้างว่าพลอยทำผิด เช่น โอนเงินไปแล้ว ไม่ยอมใส่บันทึกช่วยจำ(หมายเหตุที่กรอกไว้ท้ายสลิป) พลอยก็แคปแชตที่คุยกับทางร้านมาใหเพื่อนๆ ดู จนเริ่มแน่ใจแล้วว่าถูกมิจฉาชีพหลอกแล้ว

เฟิร์นกับนิวชวนพลอย บอกว่าไปแจ้งความดีกว่า เราอายุเกิน 18 ปีแล้ว ไปแจ้งความเองได้เลย แต่เหมือนพลอยก็ยังไม่ตัดสินใจว่าจะไปโรงพักดีไหม จนมาทราบข่าวเศร้าตอนที่เพื่อนโทรมาบอกว่า พลอยเสียชีวิตแล้ว

ขณะที่ผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูกมิจฉาชีพแก๊งนี้หลอกเหมือนกัน เล่าพฤติการณ์การก่อหตุเหมือนกับที่น้องพลอยโดน คือจะใช้เพจที่มีผู้ติดตามหลักแสน ใช้รูปปลอมมาแอบอ้างว่าเป็นร้านที่น่าเชื่อถือ มีหน้าร้านจริงๆ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ แล้วติดต่อขอซื้อสินค้า

แต่พอโอนเงินไปแล้ว จะเจออุบายเดียวกัน คือ บอกว่าผู้เสียหายโอนเงินแล้วใส่ข้อความในบันทึกช่วยจำผิด ต้องโอนเงินใหม่ด้วยยอดเดิม แล้วใส่ข้อความให้ถูกต้อง แต่ผู้เสียหายหลายคนบอกว่า ถ้าจะให้โอนซ้ำ ต้องโอนเงินก้อนแรกคืนมาก่อน แต่ทางร้านจะบอกว่าโอนคืนไม่ได้ เงินค้างอยู่ในระบบ เงินไม่ได้เข้ามาที่ร้านทันที เพราะไม่ใช่ระบบอัตโนมัติ

ขณะที่แม่บุญเยือนเล่าว่า ตอนแรกที่เห็นเจ้าของบัญชีม้าถูกจับ เขาให้สัมภาษณ์ พ่อแม่เขาให้สัมภาษณ์ ดูน่าสงสารมาก เราก็อยากจะอโหสิกรรมให้เขา คิดว่าเขาถูกหลอกมาเหมือนกัน แต่พอตำรวจสืบทราบจริงๆ พบว่าเขาเป็นตัวการเลย ตอนนี้ก็ไม่ยกโทษให้แล้ว อยากให้ตำรวจดำเนินการเอาผิดเขาให้ถึงที่สุดเลย

คุณแม่บุญเยือนยังบอกอีกว่า น้องพลอยเพิ่งจะไปเปิดบัญชีเงินกู้ยืมจากโรงเรียน ซึ่งเป็นเงินที่จะนำไปเป็นทุนการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย คุณแม่ย้ำน้องว่า เงินกู้ก้อนนี้ให้เก็บเอาไว้เรียนนะลูก ถ้าพลอยมีอะไรที่อยากจะใช้จ่าย ให้มาบอกแม่ แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นเงินก้อนนี้เองที่น้องพลอยโอนให้มิจฉาชีพ เพราะหวังจะได้เงินก้อนแรกคืนมา

ด้านทนายแก้ว ให้ความเห็นทางกฎหมายว่า การก่อเหตุของมิจฉาชีพมีความผิดหลายประการ อย่างการปลอมหน้าร้าน ตั้งเพจปลอม อันนี้ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ส่วนการใช้บัญชีม้า ผิด พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 คนที่ไปเปิดบัญชีม้า หรือคนที่เป็นธุระ จัดหาคนไปเปิดบัญชีม้า มีโทษจำคุก 3 ปี

ความคืบหน้าทางคดี พลตำรวจตรีชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 เปิดเผยว่าจากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพ โดยเยาวชนที่เปิดบัญชีม้าได้ค่าจ้างบัญชีละ 3,000 บาท ส่วนคนกดเงินได้รับการว่าจ้างจากชาวเมียนมา ผ่านทางเฟซบุ๊ก ให้นำโทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งแอปฯ ธนาคาร ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มฝั่งประเทศไทย โดยเป็นการกดแบบไม่ใช้บัตรเอทีเอ็ม แล้วนำไปส่งให้ผู้บงการที่ชายแดนด่านแม่สาย ได้ค่าจ้างกดเงินครั้งละ 300-500 บาท ทำมาแล้ว 1 เดือน โดยนแต่ละครั้งจะกดเงินตั้งแต่หลักพัน จนถึงหลักแสน ยอดล่าสุดที่กดเงินออกไปเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา 104,000 บาท เชื่อว่ายอดรวมที่กดเงินออกจากบัญชีน่าจะเกือบ 1 ล้านบาท