กรณีมีการส่ง กองกำลังของตำรวจชายแดน ค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นชุดชำนาญการเดินป่า เดินทางโดยเครื่องบินมายังสนามบินตรัง เพื่อเสริมกำลังสนับสนุนทีมปฏิบัติการพิเศษ ไล่ล่า นายเชาวลิต หรือ แป้ง นาโหนด และต่อมาไม่นาน ตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) มีการนำหมายค้นจังหวัดพัทลุง บุกเข้าค้นบ้านพักญาติของเสี่ยแป้ง ในพื้นที่ ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง หลังพบว่าให้การช่วยเหลือระหว่างหลบหนี ตามที่ได้นำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

แถลงด่วน! บิ๊กตร. โชว์หลักฐาน ปืนเอ็ม16-เครื่องกระสุน เพียบ ยันมีคนช่วย ‘เสี่ยแป้ง’

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.9 และตำรวจในสังกัด ภ.จว.ตรัง กว่า 30 นาย ได้ขี่รถ จยย. ขึ้นไปสนับสนุนทีมตำรวจที่ขึ้นไปด้านบนเทือกเขาบรรทัด โดยมีการนำเสบียงขึ้นให้กำลังตำรวจที่อยู่ด้านบนแล้ว ซึ่งตลอดระยะเวลามีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้น้ำบริเวณน้ำตกไหลแรง และแดงขุ่น ประกอบการทางรถและทางเดินเท้าบนเทือกเขาบรรทัดที่เป็นดินโคลน แฉะเละ ประกอบกับเป็นป่าดิบชื้น ทำให้มีทากและสัตว์เลื้อยคลาน

ส่วนบรรยากาศโดยรวมพบว่า มีชาวบ้านทยอยเดินทางลงมาจากชุมชนบ้านตระ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือให้ชาวบ้านลงมาอาศัยอยู่ด้านพื้นล่างก่อน โดยขอเวลา 2 วัน เพื่อความปลอดภัยกับชาวบ้าน และความสะดวกในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนความคืบหน้าอื่นๆ ในการไล่ล่าติดตามตัว ยังไม่มีการเปิดเผย คาดว่าน่าจะมีการเพิ่มกำลังและยุทธวิธีในการปฏิบัติงานเพื่อกดดันล่าตัว เสี่ยแป้ง เพิ่มมากขึ้น

ส่วนการไล่ล่าหาตัว เสี่ยแป้ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเสริมกำลังมากขึ้น ล่าสุดมีการระดมกำลังตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส 35 นาย นำโดย ร.ต.อ.ศรีวิไล ไชยหาญ หน.ชุด มาสนับสนุนกำลังตำรวจ ตชด.ค่ายนเรศวร 20 นาย ที่บินมาก่อนหน้านี้ โดยแบ่งกำลังออกติดตามล่าตัวเสี่ยแป้ง ตลอดแนวเชิงเขาบรรทัด ตรงจุดน้ำตกท่าช้าง และอ่างเก็บน้ำคลองป่าบอน อ.ป่าบอน จ.พัทลุง หลังพบร่องรอย เสี่ยแป้ง ใช้เป็นเส้นทางเดินลงมาฝั่ง จ.พัทลุง ห่างจากศูนย์ปฏิบัติการพิเศษส่วนหน้าไม่มากนัก

ส่วนอาวุธปืนเอ็ม16 ที่ยึดมาได้ พบว่ามีรอยถูกกระสุนปืนของตำรวจ ยิงใส่ ทำให้ปืนขัดข้อง ใช้การไม่ได้ ทำให้ เสี่ยแป้ง จึงทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ และชื่อว่ายังมีอาวุธอีกบางส่วนที่พกติดตัวไป