เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ จากกรณีเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ อยู่ในวันสมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งคดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาและสั่งให้นายพิธาผู้ถูกร้อง หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. นับแต่วันที่ 19 ก.ค. 2566 จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ต่อมานายพิธายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พร้อมบัญชีระบุพยานเอกสาร พยานบุคคล พยานวัตถุ ฉบับลงวันที่ที่ 2 ต.ค. 2566 และบัญชีระบุพยานบุคคลเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 ฉบับลงวันที่ 18 ต.ค. 2566  ศาลได้อภิปราย กำหนดพิจารณาคดีต่อในวันพุธที่ 22 พ.ย. 2566 เวลา 09.30 น.

ส่วนคดีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความของพระพุทธะอิสระ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่าการกระทำของนายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกลในขณะนั้น ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ. … เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งและยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายและกำหนดนัดพิจารณาคดีต่อในวันพุธที่ 22 พ.ย 2566 เวลา 09.30 น.

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ ได้มีสื่อมวลชนจำนวนหนึ่งไปเฝ้าติดตาม หลังจากเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา มีการนำเสนอว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัย 2 เรื่องดังกล่าวในวันนี้ แต่ในข้อเท็จจริงตามเอกสารข่าวของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้แจงคือเป็นเพียงการพิจารณาต่อเท่านั้น และยังไม่ได้มีการกำหนดนัดวันปรึกษาหารือแถลงด้วยวาจาและลงมติแต่อย่างใด.