เมื่อวันที่ 23. พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง “ครูเจี๊ยบ” ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ และนายธนสรณ์ อายุ 19 ปี นักศึกษาสถาบันแห่งหนึ่งเสียชีวิตชีวิต เหตุเกิดพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ และเหตุคนร้ายยิงนักศึกษาเทคนิคดุสิต พื้นที่ สน.ดุสิต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. วางมาตรการแก้ไข และเร่งรัดสืบสวนจับกุมคนร้ายโดยเร็ว ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์โหดเหี้ยม ลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม ไม่ใช่แค่กลุ่มนักเรียนทะเลาะวิวาทกันธรรมดา

“ผบช.น. ลงคุมสืบสวนด้วยตนเอง พร้อม พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ร่วมกับ พล.ต.ต.วิทวัส ชินคำ ผบก.น.5 พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.สส.บก.น.5 และตำรวจฝ่ายสืบสวน ไล่ล่าคนร้ายคดียิงครูเจี๊ยบ ตำรวจใช้เวลากว่า 1 สัปดาห์ ไล่กล้องวงจรปิด รวบรวมหลักฐานทุกมิติ จนสามารถเชื่อมโยงกลุ่มคนร้ายในขบวนการนี้ได้ทั้งหมด 8 ราย จนนำไปสู่การเปิดปฏิบัติการ ปิดเมืองล่ามือยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 8 รายได้ ส่วนคดียิงนักศึกษาเทคนิคดุสิต ตำรวจสืบสวนพบเป็นผู้ต้องหารวม 3 ราย จับกุมได้แล้ว 2 ราย และยังหลบหนี 1 ราย“ ผบ.ตร. กล่าว

จับ 8 นศ.ช่างกล-ศิษย์เก่าสถาบันดังคู่อริ ต้องสงสัยโยงยิง ‘นศ.อุเทนฯ-ครูเจี๊ยบ’

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ตนขอชื่นชมการทำงานของ ผบช.น. ชุดสืบสวน บช.น., บก.น.5 และบก.น.1 รวมทั้งส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ใช้ความเป็นนักสืบมืออาชีพ จับกุมคนร้าย เรียกความเชื่อมั่นให้สังคมได้ โดยเฉพาะกลุ่มแก๊งอาชญากรที่ยิงครูเจี๊ยบ พบว่าเป็นกลุ่มอาชญากรที่มีการวางแผนการทำงาน แบ่งหน้าที่ชัดเจน มีการใช้ป้ายทะเบียนปลอม เปลี่ยนสีรถ เปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ หลายประเด็น แต่ตำรวจชุดสืบสวนได้ทุ่มเทความสามารถ แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพ จนสามารถติดตามจับกุมคืนความเป็นธรรมผู้เสียหายได้

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า กลุ่มคนร้ายในคดี น่าจะยังเชื่อมโยงอีกหลายคดี จึงได้สั่งให้สืบสวนขยายผลต่อไปทุกมิติ เพื่อขุดรากถอนโคน หากพบเกี่ยวข้องกับใครให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด และย้ำทุกหน่วยทั่วประเทศเพิ่มความเข้ม บูรณาการทุกภาคส่วนในการดำเนินการตามมาตรการป้องกันเหตุทะเลาะวิวาท ความขัดแย้งของสถาบัน เพื่อให้แก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม เห็นผลชัดเจน สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและสังคมต่อไป.