เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง นายณัฐวุฒิ สังข์สุข นายอำเภอปะเหลียน นายวิเชษฐ์ คงอินทร์ หรือกำนันเลาะห์ กำนัน ต.ปะเหลียน นายสานิตย์ ทองเส็ม หรือผู้ใหญ่บิว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านหนองเอื้อง เดินทางมาพบและพูดคุยกับ นายภราดร จันทร์เทพ หรือ “พรานนก ภูไพร” อายุ 43 ปี หลังจากเข้าแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ใช่เป็นผู้นำทาง พา นายเชาวลิต ทองด้วง หรือเสี่ยแป้ง นาโหนด หลบหนี หรือส่งเสบียงให้ ตามที่เคยปรากฏเป็นข่าวและมีการสันนิษฐานจากเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง

ชุดล่าเสี่ยแป้งเชื่อมี ‘พรานป่า’ คอยช่วยเหลือ หนีเจ้าหน้าที่บนเทือกเขาบรรทัด

โดยวันนี้นายอำเภอปะเหลียน ได้สอบถามถึงเรื่องราว นายภราดร หรือ พรานนก ภูไพร มีสีหน้าที่ผ่อนคลาย และสบายใจขึ้น หลังก่อนหน้านี้ทราบว่ามีอาการเครียดหนัก หลังจากมีชื่อปรากฏในข่าว จึงตัดสินใจรอให้กระแสข่าวเบาบางลง เข้าแสดงความบริสุทธิ์ใจกับฝ่ายปกครอง พร้อมกับทำบันทึกท้อยคำเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

นายภราดร กล่าวเปิดใจว่า หลังจากเหตุปะทะระหว่างตำรวจกับกลุ่มเสี่ยแป้ง ตนได้ออกมาอยู่ที่ขนำชุมชนบ้านตระ แถวร้านค้าชุมชน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ก็เห็นอยู่ทุกวัน ก่อนเกิดเหตุปะทะเคยพบนายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง ตนรู้จักแค่พอประมาณ โดยปกติแล้วเวลาตนเจอเจ้าหน้าที่หรือใครก็ตาม ต้องเรียกกินข้าวกินกาแฟที่ขนำ เป็นวิถีของชาวบ้านตระอยู่แล้ว เพราะตนชอบเข้าป่าคนเดียวเวลาไปก็เข้าไปเป็นเวลานาน สำรวจพื้นที่ หาของป่า และหาสถานที่ใหม่ๆ เพื่อที่จะพานักท่องเที่ยวไปสำรวจ

จากการได้นั่งคุยกับนายอำเภอและเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายภราดร ให้ข้อมูลและเล่ารายละเอียดต่างๆให้ฟังว่า เคยเห็นเสี่ยแป้งในบ้านตระหลายครั้ง ตลอดเวลาตนก็อยู่ที่บ้านตระ และเคยเจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายครั้ง แต่อาจจะจำตนไม่ได้ ตนอยากจะแสดงตัว แต่ก็กลัวเพราะกระแสในช่วงเวลานั้นว่าตนเป็นคนพาเสี่ยแป้งหนีกำลังแรง ซึ่งยืนยันว่าก็ไม่ได้หนีไปไหน ยินดีให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทุกอย่าง และยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยยืนยันว่ารู้จักเส้นทางบ้านตระและเทือกเขาบรรทัดเป็นอย่างดี ส่วนการค้างแรมบนเขานั้นอยู่ยากมีความลำบากหลายอย่างทั้งไข้ป่า สัตว์ ตอนนี้ก็มีฉี่หนูระบาด หาของกินก็มีสัตว์ป่าแต่ไม่สามารถก่อไฟได้เพราะมีฝนตกตลอดเวลา อากาศหนาวเย็นเพราะเป็นป่าดิบชื้นและค่อนข้างมืดเร็ว

นางดาวิภา เทิดประชา แม่ของพรานนก กล่าวว่า รู้สึกดีใจเพราะลูกชายจะได้พ้นคำกล่าวหาว่าเป็นคนพาเสี่ยแป้งหนี ตนเชื่อมั่นในตัวลูกชายมาตลอด ตามปกติลูกชายจะเข้าป่าเป็นเดือนๆอยู่แล้ว ไม่ได้ติดต่อกัน เพราะในบ้านตระไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ลูกชายก็บอกตนว่าไม่ได้หนีไปไหน อยู่ตามปกติ ตนก็ไม่ทราบว่าลูกชายรู้จักเป็นการส่วนตัวหรือไม่ แต่จากที่ฟังก็ได้ยินว่ารู้จักแค่ผิวเผิน ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้แจ้งข้อหาอะไร เพราะไม่ได้ทำความผิดอะไร ตอบคำถามที่เจ้าหน้าที่ให้คลายสงสัยไปหมดแล้ว.