เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.66 ร.ต.ท.สิขเรศ โนรา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี รับแจ้งมีคนบุกเข้ามาที่หน้าร้านขายของชำ เลขที่ 19/1 หมู่ 2 บ้านทุ่งหลวง ต.ห้วยทรายเหนือ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ใช้ไม้ทุบรถยนต์ ด่าท่อ เอาอาวุธปืนมาข่มขู่ จึงไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัยสว่างสรรเพชร ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดี่ยว พบกับ นายธงชัย ทับทอง อายุ 56 ปี เจ้าของบ้าน ภรรยาและลูกสาววัย 2 ขวบ กำลังให้การต่อตำรวจ ที่บริเวณหน้าร้านพบรถเก๋งซูซูกิ สีดำ ทะเบียน กพ 1088 เพชรบุรี ถูกของแข็งตีเข้าที่สเกิร์ตหลัง และกระจกหน้าแตกได้รับความเสียหาย เศษกระจกกระจัดกระจายเต็มพื้นถนน ส่วนผู้ก่อเหตุหลังลงมือได้หลบหนีไป


ด้าน นายธงชัย เจ้าของร้าน ผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนกับผู้ก่อเหตุ ทราบว่าเป็นอดีตตำรวจ เคยมีปากเสียงกันมาแล้ว 1 ครั้ง ตนกำลังขับรถออกไปธุระนอกบ้าน เห็นผู้ก่อเหตุยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามเหมือนจะเดินข้ามถนนมาหาเรา จึงจอดรถแล้วถามดีๆ ว่าพี่มีอะไรหรือเปล่า โดยผู้ก่อเหตุสะพายเป้สีดำมา 1 ใบ ภายในมีอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอกติดตัวมาด้วย พอเดินเข้ามาพูดคุย เราก็พูดกับเขาดีๆ ตนจึงตัดบทบอกว่าเดี๋ยวจะไปธุระก่อน สะดวกแล้วค่อยกลับมาคุยกันอีกที แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังต่อว่าตนโดยในมือได้ถือปืนสลับไปมาอยู่ในมือ ตนจึงบอกว่าขอตัวก่อนเพราะต้องไปทำงาน จึงขับรถออกไป จากนั้นได้ยินเสียงชาวบ้านเอะอะโวยวายเสียงดัง เมื่อหันไปมองกระจกหลัง ก็เห็นผู้ก่อเหตุชักปืนขึ้นมา เราจึงชะลอรถเพื่อจอดดู แต่ผู้ก่อเหตุไม่ได้ยิงใส่จนเหตุการณ์ก็ผ่านไป ตนก็ไม่ได้ติดใจอะไรคิดว่าหลังจากทำงานจะเรียกพี่ชายของผู้ก่อเหตุมาพูดคุยปรับความเข้าใจ


จนมาถึงวันนี้ ที่หน้าร้านมีรถเก๋งของลูกสาวจอดอยู่หน้าบ้าน ผู้ก่อเหตุได้เดินถือไม้เข้ามาต่อว่าด่าทอหยาบคายใส่ตน จากนั้นได้ใช้ไม้ตีเข้าไปที่สเกิร์ตหลังรถ 1 ครั้งจนได้รับความเสียหาย แฟนจึงถามผู้ก่อเหตุว่าไปตีรถทำไม แต่ผู้ก่อเหตุก็พยายามเรียกให้ตนออกไปนอกบ้านหวังจะทำร้าย และยังพยายามท้าทายด่าทอตนอยู่หน้าร้าน ตนจึงหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปเอาไว้ได้ และพยายามพูดคุยกับผู้ก่อเหตุให้ใจเย็นลงเพื่ออยากให้เหตุการณ์นี้ผ่านไป และให้ผู้ก่อเหตุสงบสติอารมณ์ลงก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยเข้าไปคุยกันอีกที แต่ก็คุยกันไม่รู้เรื่อง ผู้ก่อเหตุก็ยังท้าทายด่าทอตน

จากนั้นผู้ก่อเหตุก็เอาไม้ไปตีที่กระจกรถหลายครั้งจนแตกได้รับความเสียหาย จึงถามผู้ก่อเหตุว่าไปตีรถทำไม รถไม่เกี่ยวข้องอะไรและรถคันนี้เป็นรถของลูกสาวไม่ใช่ของตน ทั้งนี้ตนเองกับผู้ก่อเหตุเคยมีปัญหากันมาก่อนแต่ก็ไม่ได้คิดมีเรื่องหรือติดใจอะไรกับผู้ก่อเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมฟังใคร และผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจเกษียณอายุราชการแล้ว และก็เป็นเพื่อนบ้านที่รู้จักกันดี หลังจากเกิดเหตุตนกลัวว่าคนในครอบครัวจะได้รับอันตราย ขณะตอนที่มาชักปืนข่มขู่ก็ยังมีเด็กอยู่หน้าร้าน เบื้องต้นได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรีแล้ว.