กรณีมหากาพย์ 3 ปี คดีการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” ที่ล่าสุดศาลจังหวัดมุกดาหาร อ่านคำพิพากษาว่า นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 317 วรรคแรก ฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 10 ปี, ฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันสมควร จำคุก 10 ปี และยกฟ้องนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

เปิดคำพิพากษาฉบับเต็ม ศาลมุกดาหารสั่งจำคุก ‘ลุงพล’ 20 ปี ชำระค่าสินไหมทดแทนทางแพ่ง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. หนึ่งในคณะทำงานชุดคลี่คลายคดีน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณศาลที่ตัดสินด้วยความเป็นธรรม และขอให้เครดิตท่าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีตผบ.ตร. ที่ให้ความสนใจและลงมาติดตามคดีด้วยตนเอง พร้อมทั้งระดมกำลังชุดสืบสวนจากทั่วประเทศมากฝีมือมาอยู่ที่กกกอก จ.มุกดาหาร ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบช.ภ.4 พร้อมทั้ง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐ./พล.ต.ต.ชัชชัย วงค์สุนะ ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร และ พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป. บช.ก./พ.ต.ท.พูนสุข เตชะประเสริฐพร รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1 รวมถึงทีมงานนักสืบทุกคน สถาบันนิติเวชโรงพยาบาล กองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งในขณะนั้นได้รับผิดชอบคดีดังกล่าวและทุกคนทำงานอย่างเต็มที่สุดความสามารถ

พล.ต.ต.นพศิลป์ ยืนยันว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมากระบวนการทำงานของตำรวจชุดสืบสวนนั้นไม่ได้มุ่งเป้าไปที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งว่าเป็นผู้กระทำความผิด แต่ยึดจากพยานหลักฐานที่พบเจอเป็นจุดสำคัญจนนำไปสู่การเจอตัวผู้กระทำผิด ซึ่งสามารถสรุปสาระสำคัญที่เป็นพยานหลักฐานสำคัญได้ทั้งหมด 8 ข้อดังนี้

1.เส้นทางที่ยากลำบากเกินความสามารถของน้องชมพู่ มีเนินชันมากกว่า 60 องศา ขวางกั้นในทุกเส้นทาง
2.พลังงานจากอาหารมื้อสุดท้ายที่น้องชมพู่รับประทานไปไม่เพียงพอต่อการเดินไปบนจุดพบศพ
3.ประสบการณ์ชาวบ้านยืนยันว่าเด็ก 3 ขวบ จะปีนป่ายไปถึงได้แค่ชั้นที่ 2 ของภูเหล็กไฟเท่านั้น
4.กรณีศึกษาการหลงป่า ของชาวบ้านกกตูม ชาวบ้านสามารถหาได้เจอภายในคืนเดียว
5.แพทย์ผู้ชันสูตรและกุมารแพทย์ ยืนยืนว่า พัฒนาการของเด็กอายุ 3 ขวบ ไม่สามารถที่จะเดินขึ้นไปเองได้
6.สภาพศพที่เปลือยกาย ซึ่งบิดาและมารดาของน้องชมพู่ยืนยันว่าน้องชมพู่ไม่สามารถถอดเสื้อเองได้
7.พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ที่ตรวจพบเส้นผมน้องชมพู่ถูกตัดด้วยมีด เชื่อได้ว่าเป็นการกระทำของบุคคลอื่น
8.นิสัยส่วนตัวของน้องชมพู่ กลัวที่สูง และกลัวป่า ที่ผ่านมาของน้องชมพู่ไม่เคยไปในป่าหลังบ้านเลยสักครั้ง

ซึ่งคำตัดสินวันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์การทำงานของชุดคลี่คลายคดีที่อดหลับอดนอน ปีนเขา 8 ลูก 9 ลูก กันมานานกว่า 3-4 เดือน ในการหาพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด เพื่อให้คนร้ายได้รับการลงโทษกับสิ่งที่กระทำต่อเด็กที่อายุเพียงแค่ 3 ขวบ ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การสืบสวน การสอบสวน รวมถึงการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดนำส่งศาลเพื่อสืบพยานในชั้นศาล