เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า “นโยบายเปิดผับสถานบันเทิงถึงตี 4 ใน 5 พื้นที่ กรุงเทพ ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต เกาะสมุย จว.สุราษฎร์ธานี ของกระทรวงมหาดไทย” มีผลพวงตามมา ข่าวอุบัติเหตุคนออกจากผับ ขับรถชนคนเสียชีวิต คนส่วนใหญ่โทษแต่เมาจากดื่มเบียร์เหล้าในผับที่เปิดถึงตี 4 ทำให้เกิดอุบัติเหตุ มองข้ามปัจจัยร่วมที่สำคัญคือการอดนอน และอุบัติเหตุที่เกิดจากง่วงหลับใน

ช่วงเวลาที่คนง่วงนอนมากกว่าเวลาอื่น มี 2 ช่วง ช่วงบ่าย 2 ถึงบ่าย 4 และหลังเที่ยงคืนถึงเช้ามืด เป็นไปตามนาฬิกาชีวิตในสมองเป็นตัวกำหนด ความง่วงนอนในเวลาตื่นจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามจำนวนชั่วโมงที่อดนอน สมองจะบังคับคนอดนอน เหมือนเจ้าหนี้บังคับลูกหนี้คืนจำนวนชั่วโมงที่อดนอน ให้ใช้หนี้ด้วยการบังคับให้นอนหลับ โดยไม่สนใจว่าคนนั้นกำลังขับรถหรือทำอะไรอยู่
คนที่ตื่นแต่ 6 โมงเช้าแล้วขับรถกลับบ้านหลังเที่ยงคืน มีความสามารถในการขับรถลดลงเท่ากับคนดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

แอลกอฮอล์เป็นอันตรายสำหรับคนอดนอน คนอดนอนดื่มแอลกอฮอล์ยิ่งทำให้หลับในง่ายขึ้น คนอดนอน นอนไม่พอ ดื่มเบียร์เพียงขวดเดียว มีความสามารถในการขับรถลดลงเท่ากับคนที่นอนเต็มอิ่มดื่มเบียร์ 6 ขวด เวลาตี 4 เป็นเวลาที่สมองของคนส่วนใหญ่กำลังหลับ ถ้ายังไม่นอนแล้วดื่มแอลกอฮอล์ด้วย มีโอกาสหลับในขณะขับรถสูงมาก

ถ้าเราต้องการลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจร ถึงเวลาแล้วเราต้องรณรงค์ทั้ง 2 เรื่องพร้อมกัน เช่น “ง่วงเมาเราไม่ขับ ไปกลับแท็กซี่” “เมาไม่ขับ ง่วงจัดต้องรีบจอด ไม่ใช่พูดแต่เรื่องเมาอย่างเดียว ถึงไม่ดื่มหรือดื่มแอลกอฮอล์เพียงแก้วเดียว ขับรถตอนตี 4 ก็อาจเกิดอุบัติเหตุจากง่วงหลับในได้..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC