เมื่อวันที่ 3 ม.ค. รายการโหนกระแสวันนี้พูดคุยกับภรรยาของนายตำรวจ ที่ถูกสามีนอกใจ พาผู้หญิงเข้ามาอยู่ในบ้านพักตำรวจ ทั้งยังปลอมเอกสารใบหย่า เพื่อเอาไปหลอกผู้หญิงใหม่ว่าหย่ากับเธอแล้ว

คุณอิ๋ว เมียหลวงของนายตำรวจ เล่าว่า เธอแต่งงานกับสามีคนนี้ มีลูกด้วยกัน แต่อยู่กันคนละจังหวัด คุณอิ๋วอยู่ที่สุราษฎร์ธานี ส่วนสามีรับราชการตำรวจอยู่ที่นครศรีธรรมราช จะมาเจอกันเวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ทุกสัปดาห์ หรือช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ มารู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ ช่วงปี 66 ที่ผ่านมา เราโทรฯหาลูกตามปกติ ถามว่าพ่ออยู่ไหน ลูกบอกว่าพ่อไปเตะบอล เตะบอลเสร็จกลับมาอาบน้ำ แล้วก็ออกไปข้างนอก บอกลูกว่าไปทำงาน แต่ติดต่อไม่ได้ มือถือจะถือติดมือ ติดตัวตลอด แต่กลับติดต่อไม่ได้

จนกระทั่ง เดือน ก.ค. 66 เรามาเจอกันช่วงสุดสัปดาห์ตามปกติ แต่เขาบอกว่าต้องกลับก่อน ตอนเย็นวันเสาร์ เพราะมีฝึกแถววันอาทิตย์ (2 ก.ค.) เราเอะใจว่าผิดปกติ เพราะวันอาทิตย์ใครเขาฝึกแถวกัน เราก็เลยแอบโทรฯไปที่โรงพักต้นสังกัดเขา แกล้งสอบถามว่ามีฝึกแถวไหม ถามทั้งโรงพักต้นสังกัด ถามทั้งโรงพักใกล้เคียง ถามไปถึงภูธรจังหวัด ทุกที่บอกตรงกันว่า ไม่มีฝึกแถว

ตอนนั้นเรายังคิดว่าเขาคงแค่โกหกเพราะจะหนีเที่ยวกับเพื่อน วันต่อมาเราให้น้องเราไปดู เขาไปฝึกแถวที่โรงพัก บอกเขาให้รับโทรศัพท์เราด้วย เขาตอบมาว่า เดี๋ยวเขาจะจัดการเอง หลังจากนั้นไม่กี่วันน้องเราก็มาบอกเราว่า ให้ไปดูเฟซบุ๊กผู้หญิงคนหนึ่ง เขาอัปสตอรี่ มีผู้ชายเดินอยู่กับผู้หญิงคนนี้ ใช่สามีเราไหม

เราไปดูก็เป็นสามีเราจริงๆ เป็นสตอรี่ที่ผู้หญิงเดินแล้วพูดว่า กลับบ้าน กลับบ้านในรอบหลายเดือน แล้วมีสามีเราเดินตามหลังต้อยๆ เราก็เอามาถามเขาว่า ที่อยู่ในสตอรี่ใช่เขาไหม เขาปฏิเสธว่าไม่ใช่ แต่เอาให้ลูกดู 3 คน ลูกทุกคนพูดตรงกันหมดว่านี่พ่อ

คุณอิ๋วแอดเฟซบุ๊กไปหาผู้หญิงคนนี้ ชื่ออัน เขายอมรับว่าไปกับสามีเราจริง แต่ผู้ชายบอกว่าเลิกกับคุณอิ๋วแล้ว เขาไม่รู้ว่ายังเป็นครอบครัวกันอยู่ เขายอมถอย เขาขอโทษ เราก็โอเค กลับมาอยู่กันเป็นครอบครัว พยายามรักษาครอบครัวไว้ ส่วนผู้หญิงคนนี้ก็เงียบหายไป

พอเกิดเรื่อง เรากลับไปอยู่ที่บ้านของเขาที่นครศรีธรรมราช อยู่กับลูก แต่สามีไม่ยอมกลับมาอยู่ด้วย เขาหนีไปอยู่บ้านพักตำรวจ บอกว่าอยากอยู่คนเดียวสักพัก ถามแม่เขา แม่ก็บอกว่าเขาอยากอยู่เงียบๆ คนเดียวสักพัก ไม่รู้ว่าแม่เขาไม่รู้เรื่อง หรือรู้แต่ช่วยลูกก็ไม่แน่ใจ เราเคยถามเขาว่า ถ้ามีปัญหาขึ้นมาลูกจะเอายังไง เขาก็พูดแต่ว่า ลูกเขา เขาเลี้ยงได้ แต่คำว่าเลี้ยงได้ของเขา คือเอาลูกมาทิ้งไว้ให้ย่าเป็นคนเลี้ยง ความรู้สึกของเด็กมันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว จนวันปีใหม่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา เราให้ลูกเข้าไปหาพ่อที่บ้านพักตำรวจ แต่พ่อไม่ให้ลูกเข้าบ้าน บอกว่าเดี๋ยวจะพาไปซื้อขนม พอซื้อขนมเสร็จ เขาพาลูกมาส่งที่บ้านทันที เราเดาว่าผู้หญิงต้องไปอยู่กับเขาที่บ้านพักแน่นอน เราก็เลยขี่รถไปดูที่บ้านพักตำรวจ เขาทำท่าจะออกไปข้างนอก เราก็เลยไปเปิดรถดู คิดว่าผู้หญิงอยู่ในรถแน่นอน เปิดรถดูไม่เจอคน แต่เจอเสื้อผู้หญิง รองเท้าผู้หญิง เส้นผม อะไรต่างๆ นานา ทั้งที่รถคันนี้ตนไม่ได้มานั่งนานมากแล้ว

สามีเดินมาบอกเราว่า ที่นี่เป็นสถานที่ราชการ อย่าเข้ามา บุกรุกนะ เราก็บอกว่าเรามาอย่างถูกต้อง เป็นเมียตำรวจ มีทะเบียนสมรส ใครจะเอาผิดก็มาได้เลย แล้วเราก็ไปเปิดหน้าต่างบ้านพัก เจอผู้หญิงชื่ออันอยู่ในบ้านจริงๆ เราก็เลยปีนเข้าหน้าต่างไปทันที สามีปีนตามเข้ามา มีการลงไม้ลงมือ พอเราถึงตัวก็ลงมือกับผู้หญิงคนนั้นเลย สามีเข้ามาห้ามบอกว่าพอได้แล้ว จะไปแจ้งความจับเรา เราก็บอกว่าถ้าอยากแจ้งก็ไปแจ้งได้เลย อยากจะรู้เหมือนกันว่าทะเบียนสมรสที่เราถืออยู่มันจะมีความหมายไหม เราให้น้องที่ไปด้วยกันไลฟ์สดเหตุการณ์ไปด้วย จนมีคลิปเหตุการณ์อย่างที่ปรากฏ

ต่อมาผู้หญิงชื่ออัน ส่งรูปใบหย่ามาให้ดู ว่าเป็นเอกสารการหย่าที่สามีเราหย่ากับเราแล้ว แต่ดูจากกระดาษก็รู้ว่าเป็นเอกสารปลอม ไม่เนียนสักนิก เราก็เอาไปถามสามีว่าทำแบบนี้ทำไม ทำเพื่ออะไร เขาก็ไม่ตอบ

ขณะที่ทนายไพศาล ให้ความรู้ทางกฎหมายว่า การปลอมแปลงเอกสารราชการมีความผิดแน่นอน เป็นอาญาแผ่นดิน ถ้าแจ้งความแล้วยอมความไม่ได้ ขอให้คุณอิ๋วคิดดีๆ เพราะถ้าแจ้งไปแล้วมันดึงกลับไม่ได้ ส่วนเรื่องจะแจ้งชู้ฐานบุกรุกบ้านพักตำรวจ แจ้งไม่ได้ เพราะบ้านนั้นผู้ชายถือกรรมสิทธิ์ ส่วนตำรวจจะมาแจ้งจับเมียฐานบุกรุกก็ไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมของภรรยาที่มีทะเบียนสมรสถูกต้อง ส่วนหญิงที่เป็นมือที่สาม ขอให้รู้ไว้ หลายคนชอบพูดว่า ฟ้องมาเถอะ ฟ้องชู้ ฟ้องชนะไปก็ไม่ได้เงิน เพราะไม่มีเงินจ่าย ขอให้รู้ไว้ว่าถ้าทำถึงสืบทรัพย์อะไรต่างๆ แล้วไม่มีเงิน มีการยักย้ายทรัพย์สินอะไร จะโดนคดีอาญา จะติดคุกจริง ส่วนเรื่องการปลอมแปลงเอกสารเอย การมีชู้ ผิดลูกผิดเมีย นอกจากโทษอาญาที่ต้องเจอ ตำรวจจะโดนโทษวินัยถึงขั้นไล่ออก ขอให้ระวังไว้