เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ การเสียชีวิตของ น.ส.รัตติกร ทองขำ อายุ 54 ปี แม่ค้าหอยโข่งตลาดเช้าสัตหีบ ที่จมน้ำเสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุ ขณะงมหาหอย ที่ระดับความลึกสะเอว ภายในอ่างเก็บน้ำ สวนกรมหลวงชุมพร (หนองตะเคียน) ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมีผู้สังเวยชีวิตแล้วหลายราย ต่อเนื่องในเกือบทุกปี ซึ่งทุกรายล้วนเป็นผู้มาลักลอบจับสัตว์น้ำและกระทำสิ่งไม่ดี ทำให้ชาวบ้านต่างร่ำลือถึงแรงอาถรรพ์ ของเหล่าดวงวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ที่ ณ แห่งนี้

ซึ่งการเสียชีวิตของ น.ส.รัตติกร แม่ค้าขายหอยโข่ง ถือเป็นรายล่าสุดที่ต้องมาสังเวยชีวิต โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 65 ได้มีหญิงสาวนิรนาม จมน้ำเสียชีวิต หลังมางมหากุ้งฝอย อีกทั้งหนุ่มสาวที่มาแอบลักลอบจับสัตว์น้ำ และใช้พื้นที่บริเวณดังกล่าว ในการดื่มสุราและมั่วสุมสิ่งผิดกฎหมาย ก็ต้องล้วนมาพบจุดจบกลายเป็นศพสังเวยชีวิต อยู่ในอ่างเก็บน้ำหนองตะเคียนแห่งนี้

ส่วนเหตุที่ชาวบ้านต่างเชื่อกันว่า การตายของผู้คนจำนวนมาก เกิดจากแรงอาถรรพ์ของเหล่าดวงวิญญาณที่สิงสถิตดูแลอาณาบริเวณของหนองตะเคียนแห่งนี้ ก็เพราะปรากฏสิ่งที่ยังหาคำตอบไม่ได้ เพราะทุกศพที่พบในช่วงตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี รวมนับ 10 ราย ต่างจมน้ำตาย และต้องลอยมาโผล่ขึ้นบริเวณหลังศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง และหลังศาลนางรำ ที่ตั้งอยู่ใกล้กัน ไม่เคยไปโผล่ขึ้นที่อื่นแต่อย่างใด และชาวบ้านยังเชื่อกันว่า สาเหตุที่มีคนตายติดต่อกันเกือบทุกปีนั้น เป็นตัวตายตัวแทน

สอบถามหนึ่งในผู้ที่มาลักลอบจับสัตว์น้ำ ได้เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นเพื่อนที่ร่วมหาสัตว์น้ำในหนองตะเคียนมานานหลายปี หลังรู้ข่าวก็รู้สึกเสียใจ และตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ซึ่งเชื่อว่าการตายของเพื่อนครั้งนี้ มาจากแรงอาถรรพ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่อาจจะเกิดความไม่พอใจ หรืออาจจะเป็นตัวตายตัวแทน ที่เคยมีผู้เสียชีวิตบริเวณที่แห่งนี้มาแล้วหลายราย ซึ่งตนเองเชื่อว่า เป็นเพราะเรื่องสิ่งลี้ลับอย่างแน่นอน ยอมรับว่า รู้สึกกลัวอย่างมาก แต่ไม่เคยลงหาสัตว์น้ำในตอนกลางคืน และทุกครั้งก่อนลงจับสัตว์น้ำ จะยกมือขอขมาบอกกล่าว และขออนุญาตต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นกับตนเอง

สำหรับสวนกรมหลวงชุมพร หรือ สวนสาธารณะหนองตะเคียน เป็นอ่างเก็บน้ำ เขตอภัยทานห้ามจับจับสัตว์น้ำ และเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอสัตหีบ มีเนื้อที่ 241 ไร่ 3 งาน 61.7 ตารางวา มีหน่วยงานกองทัพเรือเป็นผู้ดูแล คาดการณ์ว่า ได้มีการสร้างขุดหนองน้ำแห่งนี้ขึ้นราวปี 2529 ส่วนสาเหตุที่ได้มีการขนานนามว่า หนองตะเคียน เนื่องจากว่า ระหว่างการขุดได้พบตอต้นตะเคียนทองจำนวนมาก ฝังอยู่ใต้ดินของพื้นที่แห่งนี้ และมีชาวบ้าน ต่างพบดวงวิญญาณหญิงสาวแต่งชุดไทย ปรากฏให้เห็นยามค่ำคืน จนสร้างความหวาดกลัว ก่อนจะมีการกระทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณ ให้ขึ้นสถิต ณ ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง ที่ชาวบ้านและหน่วยงานได้ร่วมกันสร้างขึ้น จากนั้น ก็ไม่มีผู้พบเห็นดวงวิญญาณสาวชุดไทยอีกเลย และศาลแห่งนี้ ก็ได้เป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คนในพื้นที่มาปราบจนทุกวันนี้ ก่อนจะปรากฏมีการสร้างศาลเพียงตามีหุ่นนางรำ ขึ้นไว้ใกล้กัน จากข้อมูลเชื่อกันว่า ผู้ที่สร้างขึ้นนั้นได้พบเห็นนางรำ จึงได้สร้างศาลเพียงตาให้ไว้เป็นที่สถิตของดวงวิญญาณ ซึ่งผู้ใดที่ได้มากระทำไม่ดี ณ อาณาบริเวณแห่งนี้ ต่างต้องพบจุดจบ ไม่วิบัติก็ต้องสังเวยชีวิตกันเกือบทุกราย.