ภายหลังจากเมื่อเวลา 06.09 น. วันที่ 18 ก.พ. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และในฐานะผู้ต้องขังเด็ดขาดชั้นกลาง เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งเป็น 1 ใน 930 รายชื่อที่ได้รับการพิจารณาอนุมัติจากคณะกรรมการพักการลงโทษ ได้เดินทางด้วยรถตู้ Mercedes Benz รุ่น V 250 d สีดำ ทะเบียน ภษ 1414 กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ออกจากอาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา รพ.ตำรวจ หลังครบกำหนดเข้าสู่กระบวนการพักโทษ

ต่อมาเวลา 06.32 น. นายทักษิณ และบุตรสาว ได้โดยสารด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลมาถึงบริเวณบ้านจันทร์ส่องหล้า เลขที่ 472 ภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 แขวงและเขตบางพลัด กรุงเทพฯ ซึ่งมีเหล่าบรรดาสื่อมวลชนปักหลักติดตามรายงานความเคลื่อนไหวตั้งแต่คืนวานนี้ โดยล่าสุดยังคงไม่มีการเปิดเผยใดๆ จากทางสมาชิกครอบครัวชินวัตรถึงกิจกรรมที่จะทำร่วมกันหลังจากนายทักษิณกลับมาถึงที่พัก ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

“ผู้สื่อข่าวอาชญากรรมเดลินิวส์” ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวระดับสูงภายในกระทรวงยุติธรรม ถึงกระบวนการภาพรวมที่จะเกิดขึ้นภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักการลงโทษ ว่า เบื้องต้นสำหรับหนังสือแจ้งการพักโทษที่จะเป็นเอกสารสำหรับผู้ต้องขังนั้น จะอยู่ในความรับผิดชอบเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ขณะที่กรมคุมประพฤติมีหน้าที่ไปรับรายงานตัว แต่ก็จะต้องดูรายละเอียดเช่นกันว่าในเอกสารดังกล่าวมีการกำหนดเงื่อนไขอะไรบ้าง ซึ่งกระบวนการรับรายงานตัวจะเกิดขึ้นภายหลังสุด เนื่องจากนายทักษิณ เป็นผู้ต้องขังสูงอายุและเจ็บป่วย จึงเป็นหน้าที่ของทางกรมคุมประพฤติที่จะต้องเดินทางไปพบด้วยตัวเอง

โดยกรมคุมประพฤติจะต้องมีการประสานกับกรมราชทัณฑ์ หรือเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าผู้ต้องขังเข้าสู่กระบวนการพักโทษและเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่พักโทษเรียบร้อยแล้ว หรือในการนี้ คือ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” เพื่อเจ้าหน้าที่กรมคุมประพฤติจะได้ประสานโดยตรงกับผู้อุปการะสำหรับกำหนดการเข้าพบและชี้แจงเงื่อนไข ทำความเข้าใจ ข้อกำหนดการพักการลงโทษ วันเวลานัดหมายรายงานตัวในเดือนถัดไป ซึ่งการจะเข้าพบนายทักษิณ กรมคุมประพฤติมีเวลา 3 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.-21 ก.พ. และต้องได้รับการยินยอมจากนายทักษิณก่อนว่าสะดวกในวันเวลาใด ภายใน 3 วันนี้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อกระบวนการการรักษาของแพทย์ หากนายทักษิณยังอยู่ระหว่างการทำหัตถการต่างๆ

รายงานข่าว ระบุถึงการเดินทางเข้าเยี่ยมของบุคคลภายนอกต่อผู้ได้รับการพักโทษ ว่า สามารถกระทำได้และไม่ต้องขออนุญาตจากกรมคุมประพฤติ เพราะผู้ที่ได้รับการพักโทษก็คือผู้ที่ได้รับโอกาสให้กลับไปใช้ชีวิตปกติอยู่ในสังคมก่อนถึงวันพ้นโทษ ดังนั้น ไม่ว่าบุคคลดังกล่าวจะเป็นใคร ตำแหน่งใด ก็สามารถเดินทางเข้าเยี่ยมพูดคุยกับผู้ได้รับการพักโทษได้ ส่วนเงื่อนไขที่เป็นข้อละเว้นเดียวก็คือผู้ที่ได้รับการพักโทษจะไม่สามารถไปเยี่ยมผู้ต้องขังอื่นๆ ในเรือนจำฯ ได้ อย่างไรก็ตาม หากในระหว่างการพักโทษนั้น นายทักษิณมีความจำเป็นจะต้องเดินทางไปตรวจสุขภาพกับแพทย์ที่สถานพยาบาลอื่นใดก็สามารถเดินทางไปได้ ขอเพียงแค่อยู่ในพื้นที่จังหวัดของสถานที่พักโทษ ทั้งนี้ หากนายทักษิณมีความจำเป็นต้องไปทำธุระนอกพื้นที่เขตจังหวัด จะต้องแจ้งกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ

เมื่อถามว่าในระหว่างที่นายทักษิณได้รับการพักโทษจะต้องมีเจ้าหน้าที่จากกรมคุมประพฤติคอยประกบหรือไม่ รายงานข่าว เผยว่า จะไม่มีเจ้าหน้าที่ของกรมคุมประพฤติต้องคอยประกบหรือควบคุมดูแล เพราะถือว่านายทักษิณอยู่ในกระบวนการพักโทษแล้ว สามารถใช้ชีวิตปกติในสังคมได้ทันที เพียงแค่ต้องพึงระวังในข้อจำกัดหรือเงื่อนไขตามหลักการที่ถูกกำหนดไว้เหมือนกับผู้ได้รับการพักโทษคนอื่นๆ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั่งมาในรถยนต์ส่วนบุคคลก่อนเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้านั้น พบว่าเจ้าตัวสวมเสื้อเชิ้ตสีเขียวลายตาราง พร้อมสวมเฝือกที่คอสีเนื้อ และเฝือกสีดำที่แขนขวา และยังไม่ปรากฏกลุ่มคนเสื้อแดงมาคอยให้กำลังใจแต่อย่างใด.