เมื่อวันที่ 21 ก.พ. นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.รมน.ภาค 4 นายมงคล สินยัง นายอำเภอสะบ้าย้อย จ.สงขลา ให้คณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย จนท.กอ.รมน.ภาค 4 สน., จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สข.6 (สะบ้าย้อย), จนท.หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้สะบ้าย้อย, ชป.พิเศษป่าไม้, จนท.สายตรวจ กก.6 ปทส.จ.สงขลา, จนท.ชป.ป่าไม้ ร้อย.ตชด.43/ฉก.ตชด.43, จนท.ฝ่ายปกครองท้องที่ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านสนี ต.ทุ่งพอ อ.สะบ้าย้อย ร่วมกันลงพื้นที่หลังได้รับแจ้งว่า มีกลุ่มบุคคลเข้าไปลักลอบตัดไม้ทำลายป่าไม้สมบูรณ์ บนภูเขาสูง ป่าต้นน้ำลำธาร บริเวณท้องที่ บ้านสนี ต.ทุ่งพอ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา รอยต่อ จ.ยะลา

โดยเจ้าหน้าที่ใช้รถบรรทุกไปตามถนนดิน ผ่านสวนยางพารา สลับกับป่าไม้สมบูรณ์ เข้าไปในป่า ตามลำคลองสนี จนสุดทางประมาณ 9 กม. ถึงพื้นที่ป่าสงวนต้นน้ำ แล้วเดินเท้าประมาณ 1 กม. ก็พบจุดที่มีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และกำลังแผ้วถางป่าใหม่เพิ่มเติม จึงเข้าทำการตรวจสอบที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 160 ม. เป็นพื้นที่ป่าไม้สมบูรณ์บนภูเขาสูง ตรวจพบต้นไม้ยืนต้นชนิดต่าง ๆ ถูกตัดโค่นล้มคาตอด้วยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ นอกจากนี้ยังพบไม้ขนาดเล็ก ไม้พื้นล่าง วัชพืช ถูกทำลายไปทั้งหมด 7 ไร่ 80 ตารางวา เป็นการเจาะกลางป่าลึกบนภูเขาสูง ลักษณะการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อยึดถือครอบครองที่ดินเพื่อการเกษตร เตรียมปลูกทุเรียนขนาดเล็ก ขณะตรวจสอบไม่พบผู้ใดในพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลาย คาดว่าหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่ไปถึง

เบื้องต้นจึงได้มอบหมายให้ จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สข.6 (สะบ้าย้อย) จัดทำบันทึกรายละเอียดตรวจยึดไม้ พื้นที่เสียหาย แล้วนำเรื่องร้องทุกข์ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 เพื่อหาตัวผู้กระทำผิด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.