จากกรณีที่สังคมเฝ้าจับตา ปัญหาข้อพิพาทการออกโฉนด ส.ป.ก. จ.นครราชสีมา รุกล้ำเข้าไปในเขตพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บริเวณบ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่ส่อพิรุธมากมายนั้น

ด่วน! บุกยึดแบ๊กโฮเล็ก-รถไถถางป่าอุทยานฯเขาใหญ่ คาบ้านพนักงานราชการกรมป่าไม้

‘ธรรมนัส’ สั่งด่วน! ยึดคืน ส.ป.ก.รุกเขาใหญ่ทั้งหมด เชือด ม.157 จนท.เอี่ยวเป็นตัวอย่าง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบ แปลง ส.ป.ก. ที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เขาใหญ่ จับกุมแปลงหนึ่งเมื่อช่วงปี 2566 พบว่า ชื่อผู้ครอบครองเป็นชาวบ้านรายหนึ่ง แต่ถือครองเป็นนอมินี โดยเจ้าของที่แท้จริงกลับเป็นนักธุรกิจหญิงรายหนึ่ง มีสำนักงานอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นนายทุนลักษณะเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี

เป็นที่ปรึกษามืออาชีพในการแนะนำและอำนวยความสะดวกในการซื้อขายที่อยู่อาศัย ทั้งในกรุงเทพฯ และสถานตากอากาศ ไม่ว่าจะในพัทยา จ.ชลบุรี หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เขาใหญ่ ฝั่งปากช่อง จ.นครราชสีมา และ จ.เชียงใหม่ ซึ่งถือว่าขัดต่อเจตนารมณ์การครอบครองกรรมสิทธิ์ ที่ ส.ป.ก.4-01 ที่จะอนุญาตครอบครองแก่ประชาชนที่เป็นเกษตรกรที่มีฐานะยากจน มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท ต่อคน/ต่อปี และมีสิทธิถือครองครอบครัวละไม่เกิน 50 ไร่

ทำความรู้จักเงื่อนไข ‘ส.ป.ก.4-01’ หลังเกิดปัญหาพิพาท ‘สำนักอุทยาน-ส.ป.ก.โคราช’

โดยผู้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.4-01 รายนี้ เมื่อถูกจับกุมแล้ว ยังกล้าไปร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมาด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบพบความไม่ชอบมาพากลนี้ ทำให้ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของรัฐ เตรียมดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า ขบวนการนี้ มีพนักงานราชการ และอดีตช่างรังวัดของนิคมฯ ร่วมกันทำเป็นขบวนการ โดยมีนายทุนกิจการโรงแรม ออกเงินให้อยู่เบื้องหลัง โดยคนที่มีชื่อบนโฉนดที่มาทำหน้าที่เป็นนอมินี ก็เป็นญาติของขบวนการนี้เช่นกัน.