เมื่อวันที่ 23 ก.พ.67 น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่าหลังจากนายกรัฐมนตรีได้กล่าวปาฐกถาในงาน iBusiness Forum 2024 หัวข้อพลิกเศรษฐกิจไทยก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน พร้อมเปิดประเด็นเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์พลังงานสะอาด เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจไทยนั้น ขอย้ำว่าตนได้มีการประกาศนโยบายส่งเสริมให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แก้ไขความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม และสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอยู่แล้วตามที่ได้ประกาศนโยบาย “อว. For EV” ไปแล้วนั้น

ขอเรียนว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) หน่วยงานในสังกัด อว. และมีฐานะเป็นหน่วยงานกำกับดูแลการใช้พลังงานนิวเคลียร์และรังสีของประเทศ มีความพร้อมทั้งด้านกฎหมายและศักยภาพบุคลากรในการกำกับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ตามมาตรฐานสากล หากไทยมีแผนใช้พลังงานนิวเคลียร์เป็นพลังงานทางเลือกในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อมสำคัญ

ทางด้าน รศ.ดร.พาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ เลขาธิการ ปส. เปิดเผยว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในการผลิตกระแสไฟฟ้าใน 32 ประเทศ และผลิตไฟฟ้าได้ร้อยละ 10 ของกำลังผลิตไฟฟ้าทั่วโลก ประเทศลำดับต้นๆ ที่มีคือ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส จีน ส่วนประเทศที่กำลังจะมี คือ บังกลาเทศ อียิปต์ และตุรกี

โดยทั่วโลก มีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์กว่า 400 โรง และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกกว่า 50 โรง ดังนั้นมั่นใจว่าประเทศไทยพร้อมกำกับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ หากรัฐบาลไทยผลักดันพลังงานนิวเคลียร์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาประเทศ ซึ่งปัจจุบัน ปส. ได้พัฒนากฎหมายในการกำกับดูแลทางนิวเคลียร์ตามพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. 2559 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 พร้อมทั้งกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกว่า 20 ฉบับ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากลสำหรับการเตรียมพร้อมหากประเทศไทยจะมีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ โดยปัจจุบันที่เป็นที่นิยมมากขึ้นคือ เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อการผลิตพลังงานแบบ SMR (Small Modular Reactor)

นอกจากนี้การจะมีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ประเทศไทย ยังต้องเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาเกี่ยวกับความรับผิดทางแพ่งจากความเสียหายทางนิวเคลียร์ และจำเป็นต้องมีกฎหมายที่มีเนื้อหาอนุวัติการอนุสัญญาที่สำคัญ 4 ฉบับ ได้แก่ 1) อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความรับผิดทางแพ่งจากความเสียหายทางนิวเคลียร์ (Vienna Convention on Civil Liability for Nuclear Damage)

2) พิธีสารแก้ไขอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความรับผิดทางแพ่งจากความเสียหายทางนิวเคลียร์ (Protocol to Amend the Vienna Convention on Civil Liability for Nuclear Damage)

3) พิธีสารร่วมระหว่างอนุสัญญากรุงเวียนนาและอนุสัญญากรุงปารีส (Joint Protocol Relating to the Application of the Vienna Convention and the Paris Convention)

4) อนุสัญญาชดเชยเพิ่มเติมสำหรับความเสียหายทางนิวเคลียร์ (Convention on Supplementary Compensation for Nuclear Damage)

พร้อมทั้งจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างรอบด้านและกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้หากประเทศไทยมีแผนเดินหน้าใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อการผลิตพลังงาน พระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. 2559 มาตรา 45 กำหนดให้ผู้ที่จะตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ต้องได้รับใบอนุญาตจากเลขาธิการ ปส. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ ตามลำดับ ได้แก่                      

1) ใบอนุญาตให้ใช้พื้นที่เพื่อตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ (มาตรา 51)

2) ใบอนุญาตก่อสร้างสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ (มาตรา 55)

3) ใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ (มาตรา 64)

ก่อนที่จะขอรับใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ ผู้รับใบอนุญาตก่อสร้างสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ที่ใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ต้องทดสอบระบบเครื่องจักรและอุปกรณ์ (มาตรา62)  หรือทางเทคนิค เรียกว่า การทำ cold test และขออนุญาตบรรจุเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์และทดสอบการเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ต่อเลขาธิการ ปส. (มาตรา 63) หรือทางเทคนิค เรียกว่า การทำ hot test ด้วย

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปส. ได้เตรียมความพร้อมในการกำกับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องการพัฒนากฎหมาย การส่งเสริมศักยภาพและพัฒนาสมรรถนะบุคลากร การศึกษาเทคโนโลยีนิวเคลียร์เพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ พร้อมทั้งบูรณาการความร่วมมือทางวิชาการทางนิวเคลียร์และรังสี ทั้งหน่วยงานในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากพลังงานนิวเคลียร์มิใช่เพียงเพื่อผลิตพลังงานเท่านั้น ประเทศยังมีการใช้ประโยชน์จากพลังงานดังกล่าวมากมายทั้งในด้านการแพทย์ การวิจัย การศึกษา อุตสาหกรรม โดยมี ปส. กำกับดูแล เพื่อความปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงาน ประชาชน และสิ่งแวดล้อม