เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ชาวจ.ลำปาง อาชีพแม่ค้าออนไลน์ หลังมาติดตามคดีจากพนักงานสอบสวน ของ สภ.รัตนาธิเบศร์ แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า โดย น.ส.เอ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับ นายบี (นามสมมุติ) ทนายความ และเจ้าของเพจแนะนำกฎหมายรายหนึ่ง หลังจากทักแชทมาขอมีเพศสัมพันธ์ โดย น.ส.เอ เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ตนไปจ้าง นายบี ให้ช่วยว่าความดำเนินคดีหมิ่นประมาทกับคู่กรณี

โดย นายบี เรียกค่าทนาย 16,000 บาท แต่ด้วยความที่ตนไม่มีเงินจึงมัดจำไปก่อน 6,000 บาท กระทั่งตนไม่สามารถหาเงิน 10,000 บาทมาจ้างให้ว่าความได้ ประกอบกับไม่อยากดำเนินคดีหรือเอาเรื่องคู่กรณีแล้ว เพราะต้องเสียเวลาไปขึ้นศาล ตนจึงทักแชทพูดคุยว่าจะยกเลิกการว่าความ และขอเงินมัดจำคืน ซึ่งฝ่าย นายบี ยอมคืนให้แค่ 2,000 บาท ส่วนอีก 4,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าปรึกษา ค่าเสียเวลา ตนจึงทักแชทไปว่า งั้นขอยืมเงิน 2,222 บาทก่อนได้หรือไม่ แล้วจะใช้คืนให้ หรือไม่ก็แลกกับทำงานให้ ปรากฏว่าฝ่าย นายบี ตอบกลับมาทำนองว่า

“…ถ้าจะยืมเงินหรือขอเงินคืนคงไม่มีให้ แต่ถ้าอยากได้ ก็ให้มาหาเขาที่ห้อง วันไหนที่ลงมาจากต่างจังหวัดให้มาหาเขาเลย และต้องมี เพศสัมพันธ์กันด้วย โดยจะไม่ใส่ถุงยาง พอตอบไปว่า ไม่ใช่ผู้หญิงหากินไม่ได้ขายอะไรแบบนั้น ฝ่ายทนายก็ยังไม่หยุดพร้อมกับบอกว่า ถ้ายอมมีอะไรด้วย จะว่าความให้ฟรี ๆ หรือหากอยากหารายได้ ก็ไปหาลูกค้ามาให้เขาทำคดี แล้วจะแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้….” น.ส.เอ กล่าว และเผยต่อว่า

ตอนนั้นรู้สึกกลัวและตกใจ จึงนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายบี เนื่องจากเกรงว่า จะใช้วิชาชีพความรู้ทางกฎหมายไปในทางที่ผิดกับหญิงรายอื่น เหมือนที่คิดจะมาทำกับตนเอง นอกจากนี้ตนยังได้ร่างหนังสือเขียนคำ ร้องขอความเป็นธรรมไปยัง สภาทนายความ โดยยื่นหนังสือไปเมื่อวันที่ 8 เดือนกุมภาพันธ์ 67 ซึ่ง สภาทนายความ รับปากว่า จะดำเนินการตรวจสอบมารยาทและความประพฤติของ นายบี พร้อมรับหนังสือร้องทุกข์ของตนไปแล้ว อย่างไรก็ตามตนอยากให้ตำรวจสอบสวนดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับตนด้วย.