เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่บริเวณหน้าหาดทรายทอง หมู่ที่ 2 ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง นายณัฐพัฒน์ พรหมเพชร ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทรายทองบีชรีสอร์ท ซึ่งเป็นคนเก็บข้อมูลและสำรวจกลุ่มกัลปังหาแดง หรือ Sea Fan คนแรกในอำเภอปะเหลียน นำผู้สื่อข่าวและนักท่องเที่ยว ไปชมความสวยงามของกัลปังหาแดงที่โผล่พ้นน้ำ หลังน้ำทะเลลดลงต่ำสุด ห่างฝั่งประมาณ 400-500 เมตร และเป็นกัลปังหาแดงกลุ่มเดียวใน จ.ตรัง ที่อยู่ในเขตน้ำตื้น หรือที่ระดับความลึกประมาณ 20-40 เซนติเมตร

นักท่องเที่ยวที่สนใจ สามารถเดินไปชมได้อย่างใกล้ชิด โดยในช่วงหน้าแล้งของทุกปี ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ในช่วงข้างแรม 1-3 ค่ำ ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำทะเลลดลงต่ำสุด จะพบกัลปังหาแดงโผล่พ้นน้ำมากที่สุด และพบเพียงแห่งเดียวใน จ.ตรัง ที่อยู่ในเขตน้ำตื้น สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก จนกลายเป็นอันซีนแห่งใหม่บนเกาะสุกร ที่เพิ่งถูกค้นพบเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา

สำหรับกัลปังหาแดง หรือ sea fan เป็นสัตว์ทะเลที่ไม่มีกระดูกสันหลัง อยู่ในกลุ่มเดียวกับปะการัง มีหนวดลักษณะคล้ายขนนกคอยดักจับแพลงก์ตอน ที่ลอยมากับน้ำกินเป็นอาหาร พบมากในบริเวณที่มีกระแสน้ำไหล หรือที่ระดับความลึก 3-10 เมตร

แต่ช่วงเดือนมีนาคมนี้พบว่า กัลปังหาแดงทรุดโทรมลงไปมากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากน้ำทะเลลดลงเป็นเวลานานกว่าปกติ ทำให้อุณหภูมิของน้ำร้อนขึ้น ยอดของกัลปังหาแดงจึงเริ่มแห้งตายเพราะโผล่พ้นน้ำเป็นเวลานาน แต่ยังคงมีกัลปังหาแดงที่เกิดใหม่อยู่ใต้ผิวน้ำโผล่ขึ้นมาให้เห็น ส่วนนักท่องเที่ยวที่สนใจ ให้ตรวจสอบตารางน้ำขึ้น-น้ำลง หรือติดต่อไปได้ที่ นายณัฐพัฒน์ พรหมเพชร หมายเลขโทรศัพท์ 09-6585-6811

โดยนายณัฐพัฒน์ พรหมเพชร ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กล่าวว่า วันนี้พามาชมกัลปังหาแดง หรือ ซีแฟน กองนี้มีความพิเศษตรงที่เป็นกัลปังหาแดงที่โผล่พ้นน้ำ ในข้อมูลที่ตนพยายามสืบค้น น่าจะเป็นกองเดียวที่เห็นอยู่ใน จ.ตรัง หรือกองเดียวในภาคใต้ โดยปกติแล้วซีแฟนจะอยู่ในระดับน้ำ 2-3 เมตร-10 กว่าเมตร แต่กองนี้เจอในระดับน้ำแค่หัวเข่า

หรือว่าช่วงน้ำลงต่ำสุดจริง ๆ ก็สามารถเดินรอบกองนี้ได้ โดยที่ไม่ต้องไปดำน้ำหรือเสียค่าเรือให้เปลืองเงิน แค่เดินมา 400-500 เมตร ก็มาชมได้แล้ว ถือว่าเป็นหนึ่งอันซีนของเกาะสุกร ส่วนจุดเด่นคือ เป็นกองขนาดใหญ่มาก คือ 2-3 เมตร และมีความสมบูรณ์จนแทบจะไม่มีซีแฟนตัวไหนที่โผล่พ้นน้ำให้เจอได้ง่ายเลย เพราะพวกนี้จะอาศัยอยู่ใกล้ ๆ ร่องน้ำ หรือโซนที่มีแพลงก์ตอนเพียงพอในการเจริญเติบโต แต่วันนี้เจอในระยะชายฝั่ง ถือว่าเป็นโชคดีของเกาะสุกรจริง ๆ โดยตนมาเจอและสำรวจกองนี้เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และได้เก็บข้อมูลทุกครั้งที่มีโอกาสหลังน้ำลด.