เมื่อวันที่ 15 มี.ค. นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานมูลนิธิเวิลด์วิว ไคลเมท ประธานที่ปรึกษา และผู้ก่อตั้งมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตนได้นำคณะสมาคมการค้าไทย-จีน และเศรษฐกิจเอเชีย และคณะผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีของสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าพบหารือกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหารกทม. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และหารือถึงความร่วมมือระหว่างกันในด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานสะอาด ซึ่งการหารือครั้งนี้เป็นไปด้วยบรรยากาศของความร่วมมือในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์การเป็น “มหานครโซลาร์เซลล์” และ “กรุงเทพสีเขียว 2030 “ ของกรุงเทพมหานคร (กทม.)
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า นายชัชชาติได้ย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับจีน และความร่วมมือระหว่าง กทม.กับประเทศจีน ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง อีกทั้งจีนยังเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องของการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานสะอาด ขณะที่ กทม.มีแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 การส่งเสริมพลังงานสะอาด การใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) การมีจุดบริการบรรจุไฟฟ้า และการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อลดคาร์บอนและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและการพัฒนาเมือง โดยผู้ว่าฯ กทม.ได้สรุปเป้าหมายของ กทม. ด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานสะอาด ซึ่งจะเป็นโครงการที่สามารถประสานความร่วมมือระหว่างกันได้ในอนาคต ได้แก่ 1.การส่งเสริมการใช้รถพลังงานไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ซึ่ง กทม.มีโครงการเปลี่ยนรถขยะจากระบบน้ำมันมาเป็นระบบพลังงานไฟฟ้า 2,000 คัน 2.การเพิ่มจุดชาร์จรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ได้เปิดให้ยื่นข้อเสนอในการติดตั้งจุดชาร์จรถไฟฟ้า 40 จุด 3.การพิจารณาทำโรงเผาขยะเพื่อผลิตไฟฟ้า ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการหาผู้ลงทุนและผู้ดำเนินการ 4.การทำให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครโซลาร์เซลล์ โดยจะติดตั้งโซลาร์เซลล์ในทุกหน่วยงานในสังกัด กทม. 5.การพิจารณาโครงการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากลม เพราะกรุงเทพฯ มีพื้นที่ชายทะเลอยู่ประมาณ 5 กิโลเมตร
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง กทม.กับประเทศจีน ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปูทางสู่วาระครบรอบ 50 ปีในความสัมพันธ์ทางการทูตของ 2 ประเทศในปี 2568 ขณะที่คณะผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของจีนได้ตอบตกลงและพร้อมสนับสนุนข้อริเริ่มว่าด้วยความร่วมมือของผู้ว่าฯ กทม.อย่างกระตือรือร้น และจะเร่งดำเนินการต่อเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
