ดูเหมือนการปรับ ครม.ครั้งนี้จะดุเดือดเอาการเพราะ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เองก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ดูแล้วกระแสข่าวการปรับ ครม.รุนแรงขึ้น ดังนั้น จะต้องจับตาดูอะไรเป็นอะไร และใครจะไปอยู่ที่ไหน ส่วนตัวยังไม่ทราบ แต่หากเป็นพรรคไทยรักไทย จะมีการปรับบ่อย เพื่อแก้ปัญหาในขณะนั้น และอาจจะเป็นไปตามที่มีข่าวออกมา จะมีข้อเท็จจริงหรือไม่ก็ต้องติดตามดู 

ขณะที่โผ ครม.ที่ออกมาได้ระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง จะสละตำแหน่งเก้าอี้กระทรวงการคลัง แต่จะควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม แทนนั้น นายเศรษฐาเองก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า ทั้งรายชื่อ และตำแหน่งที่สื่อมวลชนรายงานนั้น เป็นเพียงข่าวลือ ยังไม่มีการปรับใดๆ ทั้งวันนี้ พรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้ และยืนยันว่า การปรับ ครม. จะไม่ใช่วันที่ 17 เม.ย.นี้ แน่นอน พร้อมกับเปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ที่อยู่ในรายชื่อบางส่วนเกิดความไม่สบายใจ และบางคนได้มีการโทรศัพท์มาพูดคุยกับตน แต่ตนก็ยังยืนยันและให้ความสบายใจไป

จากการตอบคำถามของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ทำให้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ขณะนี้รัฐมนตรี ที่มีรายชื่อปรากฏตามข่าวมีความกังวลใจไม่มากก็น้อย ว่าตนจะถูกปรับออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี ถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้ ถึงกับยกหูถามกับนายกรัฐมนตรีด้วยตนเอง

ด้าน นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ได้กล่าวถึงการปรับ ครม.ในครั้งนี้ว่า ตนยังไม่ได้รับสัญญาณอะไร และไม่ได้ตกใจกับกระแสข่าวนี้ เพราะการเมืองประเทศไทยก็ประมาณนี้ มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปจากเดิม พอใครเริ่มเป็นรัฐมนตรี ก็ต้องเริ่มนับถอยหลังอายุตำแหน่งทุกคน และวันที่เข้าสู่ตำแหน่ง ตนก็นึกถึงวันที่ต้องออกจากตำแหน่งตั้งแต่แรก และไม่ได้คิดแค่คนเดียว ตนบอกกับเพื่อนรัฐมนตรีทุกคนว่า วันนี้ดีใจที่ได้เป็น ก็ต้องเตรียมใจวันที่จะออกจาก เพราะอายุมันสั้นมากสำหรับรัฐมนตรีประเทศไทย ยืนยันว่าที่ผ่านมาตนทำหน้าที่เต็มที่ มั่นใจว่าทำเต็มที่ และมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรเสียหาย

 ขณะที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านเกิด ที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็ถูกผู้สื่อข่าวสอบถามถึงเรื่องการปรับ ครม.ในครั้งนี้ว่า การบริหารงานราชการแผ่นดินของรัฐบาลที่ผ่านมา 7 เดือน ถึงเวลาแล้วหรือไม่ ที่จะทำการปรับ ครม. โดยนายทักษิณได้ตอบกลับว่า ต้องแล้วแต่นายกฯ นายกฯ อาจทำงานแล้วมองว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนบ้าง แต่บางอย่างต้องรอนาน บางอย่างไม่ต้องรอ แต่วันนี้เศรษฐกิจช้าไปหน่อย เพราะช่วงแรกรัฐบาลอาจใช้เงินงบประมาณไม่ได้ รอนานไปหน่อย ส่วนหนึ่งปัญหาคือการรองบประมาณ อีกอย่างคือระบบราชการที่เปลี่ยนไปเยอะ ทำให้การขับเคลื่อนลำบากกว่าจะลงตัวต้องใช้เวลา แต่ตนเป็นกองเชียร์ และยังมีการคุยกันเรื่อยๆ มีอะไรก็คุยกัน

แต่ดูเหมือนว่า การกลับมาที่จังหวัดเชียงใหม่ของนายทักษิณครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดเท่านั้น แต่มีกระแสว่า จะมีคณะรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย จะเดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเข้าพบกับนายทักษิณ หรือนี่จะเป็นปรากฏการณ์สำคัญ ที่จะเป็นตัวชี้ชะตา ว่ารัฐมนตรีคนใด จะอยู่หรือจะไป เพราะเห็นได้ชัดว่า ภายหลังจากที่นายทักษิณ กลับเข้าไปยังพรรคเพื่อไทยในรอบ 17 ปี กระแสข่าวการปรับ ครม. มีมาอย่างต่อเนื่อง ต้องจับตาดูว่า กลับจากเชียงใหม่ครั้งนี้ โผครม.จะเป็นไปตามที่มีกระแสข่าวออกมาหรือไม่.

พิราบ บานเย็น