นายเสถียร เสถียรธรรมะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คาราบาวกรุ๊ป เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดเบียร์ในประเทศไทยปีนี้ คาดว่ายังชะลอตัวจากภาพรวมเศรษฐกิจไม่ฟื้น และกำลังซื้อยังไม่คึกคักหลังโรคโควิดกระทบชนชั้นกลางและระดับล่างอย่างรุนแรง ทำให้มีรายได้ลดลง และเกิดหนี้ครัวเรือนมากขึ้น จนต้องขายสินทรัพย์เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังต้องรอดูท่าทีของรัฐบาลในปัจจุบันให้ชัดเจนด้วยว่า จะเข้มงวดกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้นหรือลดน้อยลง เพราะหากเข้มงวดมากขึ้น อาจทำให้ผู้ประกอบการไม่รู้เลยว่าอะไรผิด อะไรไม่ผิด ฉะนั้นจึงอยากแนะนำว่ารัฐบาลควรปลดล็อกด้านกฎหมายและเอื้อต่อการแข่งขันมากขึ้น

สำหรับคาราบาวปีนี้ ได้เปิดตัวเบียร์ใหม่ตัวที่ 5 ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ หลังจากเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 66 ที่ผ่านมา ได้เปิดธุรกิจเบียร์และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 2 แบรนด์ 4 รสชาติ ในร้านสะดวกซื้อซีเจมอร์ของกลุ่มคาราบาว และร้านโชห่วย ร้านอาหาร ได้ผลตอบรับเกินคาดจนปัจจุบันบริษัทกลายเป็นผู้เล่นอันดับ 3 ของผู้จำหน่ายเบียร์ และมีตัวแทนจำหน่ายแล้วกว่า 1,000 ราย ขณะเดียวกัน ปีนี้ยังวางแผนผลิตดราฟต์เบียร์ หรือเบียร์สดสไตล์ญี่ปุ่น จำหน่ายในร้านอาหารเพิ่ม

“โดยสาเหตุที่บริษัทต้องเริ่มจากการมีตัวแทนจำหน่ายจำนวนมากๆ ก่อน และส่วนใหญ่เป็นรายเล็กและไม่ได้มุ่งหารายใหญ่ เพราะหากเริ่มจากจำนวนน้อยๆ เราจะไม่รู้เลยว่าใครเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม”

อย่างไรก็ตาม เบียร์ใหม่ที่เปิดตัวในครั้งนี้ จะจำหน่ายในร้านค้าเครือข่ายของคาราบาว ได้แก่ ซีจี มอร์ ที่มี 1,000 สาขาทั่วประเทศ, ร้านถูกดี มีมาตรฐานที่มีร้านค้าอยู่ทั่วประเทศ และหน่วยรถในศูนย์กระจายสินค้าทั้ง 30 แห่ง ที่สามารถเข้าถึงร้านค้าปลีกทั่วประเทศ รวมถึงร้านสะดวกซื้อสมัยใหม่ และร้านอาหาร ผับบาร์ต่างๆ ภายในเดือน มี.ค. นี้ และขายในร้านโชห่วยผ่านตัวแทนระดับอำเภอ ตั้งเป้าหมายสิ้นปีนี้มีส่วนแบ่งการตลาด 10%