ทั้งหมดทั้งมวลนายกฯ เศรษฐา ต้องการยุติความขัดแย้ง ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ที่กำลังกลายเป็นไฟลามทุ่ง! 

ย้อนกลับไปช่วงสายวันที่ 20 มี.ค. นายกฯ เศรษฐา เรียก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อหย่าศึกความขัดแย้งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่คุกรุ่นตั้งแต่ปลายปี 2566 จากกรณีเว็บพนันออนไลน์

อย่างไรก็ตาม ภายหลัง บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก เข้าพบนายกรัฐมนตรี ทั้งคู่รีบเดินทางกลับไปแถลงข่าวที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทันที สรุปใจความ 2 ประเด็นสำคัญ

(1) ประเด็นแรก  บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก ยืนยันไม่มีความขัดแย้ง หลังจากนี้ เดินหน้าทำงานเพื่อประชาชน ขอกองเชียร์ยุติการใส่ไฟ

(2) ประเด็นที่สอง  คดีความต่างๆ ที่เกี่ยวกับบิ๊กโจ๊ก  ผบ.ตร.จะส่งให้ ป.ป.ช. ทำคดีทั้งหมด เพื่อให้เป็นคนกลาง ทำให้เกิดความยุติธรรมไม่ทำให้เกิดภาพของความขัดแย้ง

ขณะที่ นายกฯ เศรษฐา ให้สัมภาษณ์ชี้แจงสาเหตุที่เซ็นคำสั่งด่วนให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปได้ด้วยความสะดวก เปิดทางให้มีการตรวจสอบเรื่องที่มีข้อขัดแย้งทุกเรื่อง ทุกคดีที่มีการกล่าวโทษกัน ให้แล้วเสร็จ 

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ นายกฯ ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจำนวน 3 คน ประกอบด้วย (1) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย (2) นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด (3) พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ  

นายกฯ กำหนดกรอบเวลาทำงานให้ได้ข้อสรุปภายใน 2  เดือน เพื่อพิจารณาว่า จะย้าย  บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก กลับไปทำงานตามปกติหรือจะให้ช่วยราชการสำนักนายกฯ ต่อไป

“การแต่งตั้ง โอนย้ายมีผลทันที ยืนยันว่าเป็นการย้ายเป็นการชั่วคราว ไม่ได้เป็นการลงโทษ…ผมคิดว่าแต่ละท่านก็เป็นผู้ใหญ่พอแล้ว ท่านรู้ว่าควรจะพูด หรือไม่พูดอะไร ซึ่งมีการแถลงข่าวไปแล้ว ตอนนี้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าแล้ว อย่าให้มีการก้าวก่าย ล็อบบี้ดีกว่า ทั้งนี้หลังการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะมีการพูดคุยเพื่อให้นโยบายต่อเลย ส่วนการหารือกระบวนการทำงาน คณะกรรมการจะไปหารือกันเอง ผมไม่อยากแทรกแซงหรือชี้นำ” นายกฯ ย้ำ

บทสรุปเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร อีกไม่นานเกินรอได้รู้กัน.

พิราบ สีบานเย็น