สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ว่า นายเมอร์ริค การ์แลนด์ รมว.ยุติธรรมสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตัน พร้อมอัยการของอีก 15 รัฐ ร่วมกันยื่นคำร้องต่อศาลรัฐบาลกลาง ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ฟ้องบริษัทแอปเปิล ฐานละเมิดมาตรา 2 ของกฎหมายป้องกันการผูกขาด


การ์แลนด์กล่าวว่า พฤติการณ์ละเมิดกฎหมายของแอปเปิล รวมถึงการจัดตั้งสิ่งที่เรียกว่า “ซูเปอร์ แอปป์ส” เป็นแอปพลิเคชันรวมบริการที่ครอบคลุมทั้งหมดไว้บนแพลตฟอร์มเดียว หนึ่งในนั้นคือ “แอปเปิล วอลเล็ต” สำหรับผู้ใช้ไอโฟนในการจ่ายค่าบริการบนแอปพลิเคชัน สโตร์ ซึ่งเป็นการบังคับใช้สถาบันการเงิน ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมให้แก่แอปเปิล


ขณะเดียวกัน กระทรวงยุติธรรมสหรัฐกล่าวหา “แอปเปิล” เลือกปฏิบัติต่อแอปพลิเคชันบางรายการ “อย่างจำเพาะเจาะจง” ด้วยการจำกัดสิทธิในการเข้าถึงระบบปฏิบัติการ ซึ่งเป็นการลดความน่าสนใจของแอปพลิเคชันนั้น ในสายตาของผู้ใช้งาน ส่งผลกระทบต่อโอกาสด้านการเติบโตของนักพัฒนา


ปัจจุบัน แอปเปิลครองส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ตโฟนของสหรัฐมากกว่า 70% และมีรายได้ที่เป็นการรับส่วนแบ่งจากผู้พัฒนาแอปพลิเคชันบนแอปพลิเคชันสโตร์ ในสัดส่วนมากกว่า 30% มานานกว่า 15 ปี บ่งชี้เจตนาต้องการหารายได้เสริมเข้าสู่บริษัท ในรูปแบบการขายสมาร์ตโฟน


ด้านแอปเปิลออกแถลงการณ์ปฏิเสธ และยืนยันการต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมาย ขณะที่ราคาหุ้นของบริษัทร่วงลง 4.3% หลังกระทรวงยุติธรรมประกาศการฟ้องร้องต่อแอปเปิล ส่วนมุมมองของผู้สันทัดกรณีแตกต่างกันออกไป บางส่วนมองว่า เหมาะสม แต่มีบางส่วนซึ่งให้ความเห็นว่า อาจมีเรื่องทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และกล่าวด้วยว่า แอปเปิล “ไม่ใช่บริษัทแห่งเดียว” ที่ดำเนินการเช่นนี้.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES