เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยชุดใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ ว่า คนรุ่นใหม่ของเรามีทั้งผู้ที่ผ่านการแข่งขัน และผู้ที่ได้รับความวางใจจากประชาชนให้ทำหน้าที่ สส. ถือว่าทุกคนมีพื้นฐานทางการเมืองที่แข็งแรงพอสมควร ส่วนตนทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง ขณะที่บรรดาผู้ใหญ่ในพรรค จะใช้ประสบการณ์ที่มีอยู่ในการให้คำแนะนำและความคิดเห็น แต่การตัดสินใจเรื่องต่างๆ เป็นเรื่องคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

เมื่อถามว่าถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไปใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใช่ พรรคการเมืองเปรียบเสมือนกับองค์กรหนึ่งที่ต้องมีการเปลี่ยนผ่าน แม้กระทั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรค ซึ่งตนทำหน้าที่มานาน 12 ปี ถ้าถึงเวลาเหมาะสม และมีคนรุ่นใหม่มาพร้อมรับงานการบริหารต่อไป เราก็ต้องเปลี่ยนถ่าย ซึ่งการเปลี่ยนถ่ายนี้ จะต้องทำตอนที่เรายังแข็งแรง รวมถึงสามารถประคับประคองและให้คำแนะนำ โดยให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงฝีมือ หลังจากที่สะสมผลงาน ประสบการณ์ และความมั่นใจในการนำพาองค์กรไปสู่ความก้าวหน้า

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่พรรคภูมิใจไทยเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารครั้งนี้ แสดงว่ามั่นใจใช่หรือไม่ว่าพรรคจะไม่เกิดปัญหาใดๆ ตามที่มีกระแสข่าว หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยไม่เคยมีปัญหาอะไร ส่วนการเปลี่ยนแปลงของเราเป็นไปตามสถานการณ์ปัจจุบัน และวันนี้ประชาชนให้โอกาสแก่คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน โดยเชื่อว่าพวกเขามีความรู้และความก้าวหน้าในด้านต่างๆ เราจึงต้องทำตามกระแสของสังคมและความต้องการของประชาชน

เมื่อถามว่าเริ่มมองหาใครเตรียมตัวเป็นทายาทรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคไว้บ้างหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ผลงานจะเป็นตัวให้คำตอบ ตอนนี้เขายังเกี่ยวให้ผมยังเป็นหัวหน้าพรรคอยู่อีกสักระยะ ถ้าเขาสามารถทำหน้าที่ได้ดี ทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้ เวลาจะเป็นตัวกำหนดเองว่าเมื่อใดที่เขาจะสามารถรับช่วงต่อได้อย่างสมบูรณ์”

ต่อข้อถามว่าคิดว่านายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย น่าจะเป็นหัวหน้าพรรคได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกคนเป็นได้ เพราะแต่ละคนมีคุณสมบัติ มีความรู้ จบการศึกษาดี มีดีในตัวเอง รวมถึงมีจุดขายคือเป็นเจนใหม่ที่เป็นบ้านใหญ่ด้วย จึงเป็นองค์ประกอบที่ทุกคนสามารถทำงานภายใต้ระบบการเมืองแบบไทยๆ ได้ทุกรูปแบบ และเข้าใจวิถีชีวิตของประชาชนในต่างจังหวัด

เมื่อถามว่าเป็นห่วงเรื่องการต่อสู้ทางการเมืองในอนาคตหรือไม่ เพราะพรรคเพื่อไทยขณะนี้มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กลับมาแล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าไปใช้คำว่าการต่อสู้ แต่ละพรรคต่างเสนอสิ่งที่ดีให้ประชาชน แล้วให้ประชาชนเป็นผู้เลือก ต่อข้อถามว่าการเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เพื่อสู้ศึกการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กับพรรคก้าวไกลด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นการทำงานการเมือง ไม่สู้กับใคร

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากนี้ พรรคภูมิใจไทยจะมีงานการเมืองรูปแบบใหม่ออกมาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า น่าจะมี ตนทราบเบื้องต้นว่าเขาจะมีการแถลงข่าวในวันที่ 15 พ.ค. นี้

เมื่อถามว่านายอนุทิน มีกำหนดการจะเข้าพบนายทักษิณหรือไม่ เพราะนายทักษิณระบุว่าสามารถให้คำแนะนำแก่ทุกคน นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่บอก จะบอกทำไม มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาบอกผู้สื่อข่าวว่าจะพบท่านวันไหน เพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับงานบริหารราชการแผ่นดิน เพราะสมมุติถ้าตนจะพบนายทักษิณ ก็พบในฐานะอดีตผู้ใต้บังคับบัญชา หรือในฐานะผู้มีพระคุณที่ให้โอกาสตนมาทำงานจนมีวันนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก ทั้งนี้ นายทักษิณแค่ให้คำปรึกษา ไม่ได้สั่งการและสั่งการใครไม่ได้ เพราะคนที่สั่งการได้คือนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเท่านั้น จึงขอสื่อมวลชนอย่าจับคำพูดทีละคำมาตีความ จนทำให้เกิดความสงสัย เพราะประชาชนไม่ควรมีความสงสัยในเรื่องแบบนี้ และขอยืนยันว่า นายกฯ มีคนเดียว คือนายเศรษฐา