เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีเครือข่ายเว็บไซต์การพนันออนไลน์ของ น.ส.ธันยนันท์ หรือมินนี่ กับพวก ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยมีการเชิญเลขาธิการคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ประธานคณะกรรมการบริหารร้านทองแห่งหนึ่ง ซึ่งมีกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. นำทองจำนวนหนึ่งไปขาย รวมถึงนายกสมาคมค้าทองคำ และนายกสมาคมเพชรพลอยเงินทอง เข้าให้ข้อมูล ทั้งนี้ ประธานคณะกรรมการบริหารร้านทอง ได้ส่งฝ่ายกฎหมายเข้าชี้แจงแทน ซึ่งใช้เวลาในการประชุมกว่า 3 ชั่วโมง

จากนั้น นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธาน กมธ. ให้สัมภาษณ์ว่า ประเด็นสำคัญในการประชุมวันนี้คือ จากที่มีการนำเสนอข่าวว่าคนใกล้ชิดนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เอาทองจำนวนมากไปขายเป็นข้อเท็จจริงแค่ไหน ในการขายทองนั้น มีการรายงานธุรกรรมทางการเงินหรือไม่ และมีการให้เงินสดหรือโอนเงินอย่างไร ซึ่งจะเป็นบรรทัดฐานให้กับร้านขายทองหรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายทอง เพราะทองกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่อยู่ในกระบวนการฟอกเงินไปแล้ว

นายเลิศศักดิ์ กล่าวต่อว่า หากร้านขายทอง สมาคมผู้ค้าทองคำ สมาคมเพชรพลอยเงินทอง ปฏิบัติตามกฎหมายของ ปปง. อย่างชัดเจน ก็จะช่วยเรื่องของการฟอกเงินได้มากขึ้น ซึ่งคำตอบก็เป็นไปตามที่สื่อมีข้อสงสัยและร้านทองก็มีการรายงานธุรกรรมถูกต้อง ซึ่งปปง.ได้รับทราบข้อมูลแล้ว และมีการซื้อขายทองโดยจ่ายเป็นเงินสด ซึ่งทางร้านทองมีการระบุว่าเวลาที่ไปขายทอง ต้องมีการแสดงตัวตนคือการใช้บัตรประชาชน ฉะนั้นจะไม่ทราบว่ามียศมีตำแหน่ง

นายเลิศศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนหลังจากนี้ ทาง ปปง. จะมีการดำเนินงานอย่างไรต่อ ก็เป็นในส่วนรูปคดี ซึ่ง กมธ.จะไม่เกี่ยวข้องในส่วนนั้น แต่เราจะเน้นดูในส่วนของข้อเท็จจริงว่ามีการรายงานธุรกรรมทางการเงินหรือไม่ และสิ่งที่สื่อนำเสนอไปนั้นมีข้อเท็จจริงแค่ไหน และการซื้อขายทองที่เป็นในลักษณะก้อนใหญ่เช่นนี้มีความผิดปกติหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ร้านทองไม่ได้ให้ข้อมูลเยอะ เพราะอ้างสิทธิว่าให้ข้อมูลกับ ปปง. ไปหมดแล้ว และ ปปง.ไม่อยากให้เสียรูปคดี

เมื่อถามว่า ในการซื้อขายทองเกิดขึ้นกี่ครั้งและเป็นคนเดียวกันนำไปขายตลอดเลยหรือไม่ นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า เกิดขึ้นหลายครั้ง มียอดใหญ่บ้างและย่อยบ้าง และมีหลายบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยในการซักถามนั้น เราถามในช่วงของปี 2563 และการนำทองยอดใหญ่ที่ซื้อมาไปขายนั้น มีการทำเช่นนี้บ่อยหรือไม่

เมื่อถามย้ำว่า คนที่นำทองไปขายเป็นคนใกล้ชิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ใช่หรือไม่ นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า เป็นไปตามที่มีการนำเสนอข่าว แต่เราไม่ได้ซักถามว่าเป็นคนใกล้ชิดหรือไม่ เราได้แค่ถามตามที่มีการนำเสนอข่าวมาว่ารายชื่อเหล่านี้ได้อยู่ในรายงานธุรกรรมหรือไม่

เมื่อถามต่อว่า จำนวนทองที่นำมาขายเป็นจำนวน 1 หมื่นกว่ากิโลกรัม ใช่หรือไม่ นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า จะมากหรือจะน้อยไม่ทราบได้ แต่ย้ำว่าเราถามตามที่เป็นข่าวว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่

เมื่อถามว่า การทำธุรกรรมในครั้งนั้นไม่ได้เป็นไปตามกฎหมาย ปปง. ใช่หรือไม่ นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า เป็นไปตาม พ.ร.บ. ปปง. มีการรายงานทางธุรกรรมทางการเงินจากการซื้อขายทองถูกต้อง และมีหลักฐานชัดเจนทั้งหมด ส่วนจะมีการโยงไปถึงใครหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่และคณะกรรมการส่วนต่างๆ ที่มีการตั้งขึ้นมา

“ยืนยันว่ามีการรายงานธุรกรรมจากการซื้อขายทองจริง ทั้งนี้ กมธ.จะไม่ได้ล้วงลึกไปถึงว่าการสอบสวนเป็นอย่างไร เพราะเป็นหน้าที่ของ ปปง. และเราจะไม่มีการสอบอะไรเพิ่ม เราจะจบแค่นี้เพราะเราทราบข้อเท็จจริงแล้ว ส่วนรายละเอียดเชิงลึกจะเป็นเรื่องของ ปปง.” นายเลิศศักดิ์ กล่าว.