สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโมกาดิชู ประเทศโซมาเลีย เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ว่ากระทรวงการต่างประเทศโซมาเลียออกแถลงการณ์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ว่า นายมุกตาร์ โมฮาเหม็ด วาเร เอกอัครราชทูตเอธิโอเปีย “มีสถานะเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา” และต้องเดินทางออกจากโซมาเลีย “ภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมง” นับตั้งแต่มีการประกาศ ขณะเดียวกัน รัฐบาลโซมาเลียมีคำสั่งให้เอกอัครราชทูตประจำเอธิโอเปียเดินทางกลับประเทศด้วย
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศโซมาเลียมีคำสั่งให้รัฐบาลเอธิโอเปียปิดสำนักงานการทูตทุกแห่ง ในโซมาลีแลนด์ และรัฐพุนต์แลนด์ ซึ่งอยู่ติดกับโซมาลีแลนด์ ภายในระยะเวลา 7 วัน นับตั้งแต่มีการประกาศด้วย
????Effective immediately:
— Ministry of Foreign Affairs ???????? (@MOFASomalia) April 4, 2024
1️⃣ #Ethiopian Ambassador to #Somalia, Mukhtar Mohamed Ware, has been informed to depart the country within the next 72 hrs.
2️⃣ #Ethiopia's Consulates General in #Hargeisa & #Garowe are to be closed within a period of 7 days.
????➡https://t.co/ly2TvF67Bm pic.twitter.com/47eXhg2qRP
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศเอธิโอเปีย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกแห่งในโซมาลีแลนด์ และรัฐพุนต์แลนด์ ยังไม่มีปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการ ต่อคำสั่งของโซมาเลีย ที่กล่าวว่าเป็นการตอบสนองต่อ “การแทรกแซงกิจการภายใน” ของเอธิโอเปีย
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลโซมาเลียเกิดขึ้น หลังการลงนามเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างเอธิโอเปียกับโซมาลีแลนด์ ซึ่งประกาศตัวฝ่ายเดียวว่าเป็น “รัฐเอกราช” จากโซมาเลีย เมื่อปี 2534 ให้เอธิโอเปียเช่าแนวชายฝั่งเป็นระยะทาง 50 กิโลเมตร เป็นเวลา 20 ปี โดยเอธิโอเปียกล่าวว่า จะใช้พื้นที่แห่งนี้สร้างท่าเรือ และฐานทัพเรือ ซึ่งจะเป็นการเปิดทางให้เอธิโอเปียมีทางออกสู่ทะเล
ทั้งนี้ โซมาลีแลนด์อ้างว่า “สิ่งที่จะได้รับตอบแทน” จากเอธิโอเปีย คือการที่รัฐบาลในกรุงแอดดิสอาบาบา ให้การยอมรับ “เอกราช” ของโซมาลีแลนด์ ทว่าจนถึงตอนนี้ เอธิโอเปียยังไม่เคยประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ.
เครดิตภาพ : AFP