เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานเว็บไซต์ iqair รายงานสถานการณ์ คุณภาพอากาศ เมืองที่มีมลพิษทางอากาศสูง (AQI) อัปเดตล่าสุดเวลา 13.00 น. โดยจังหวัดเชียงใหม่ ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูง คุณภาพอากาศแย่ อันดับ 1 ของโลก ดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้ 176 AQI สำหรับพื้นที่โดยทั่วไปของจังหวัดเชียงใหม่ยังคงเกิดไฟป่าอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเข้าปฏิบัติการทั้งทางบกและทางอากาศ ในเกือบทุกพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำ ที่ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ บ้านเรือนได้รับความเสียหาย ต้นไม้ล้มปิดทับเส้นทาง ในพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลบ้านกาด หมู่ที่ 1, 2, 3, 5, 8, 9 ตำบลดอนเปา หมู่ที่ 4 และตำบลทุ่งปี้ หมู่ที่ 3, 4, 5, 6 ขณะที่ทางอำเภอแม่วางได้เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือแล้ว และอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากข้อมูลการเฝ้าระวังผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชน ใน 4 กลุ่มโรคที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด ผิวหนังอักเสบ ตาอักเสบและกลุ่มโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบเฉียบพลัน โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ รวบรวมข้อมูลจากผู้มารับบริการโรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ (1 มกราคม 2567–6 เมษายน 2567) เปรียบเทียบผู้ป่วย ปี 2566 และปี 2567 พบว่า กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด มีผู้ป่วยมารับบริการ 57,714 ครั้ง ลดลงจากปีที่ผ่านมา 19,182 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 24.95 โรคผิวหนังอักเสบ  2,195 ครั้ง เพิ่มขึ้น 109 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 5.23 โรคตาอักเสบ  2,502 ครั้ง เพิ่มขึ้น 107 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 4.47 และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังชนิดเฉียบพลัน 2,691 ครั้ง ลดลง  409 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 13.19

สำหรับมาตรการจัดการบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข (เชิงรุก) ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการเฝ้าระวังในกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเปราะบาง โดยมีจำนวนกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ กลุ่มเด็ก (0-5 ปี) 101,837 ราย หญิงตั้งครรภ์ 3,339 ราย ผู้สูงอายุ 249,363 ราย กลุ่มผู้ป่วย (โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังชนิดเฉียบพลัน โรคหอบหืด โรคหัวใจขาดเลือด และผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง) 16,143 ราย และได้ดำเนินการจัดกิจกรรมออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ดูแลสุขภาพและช่วยเหลือประชาชน  แจกหน้ากากป้องกันฝุ่นและให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวรับมือกับสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ซึ่งผลการดำเนินงาน 225 ครั้ง (ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม-6 เมษายน 2567) มีผู้มารับบริการ 9,817 ราย กิจกรรมเยี่ยมบ้าน “เคาะประตูให้ความรู้ แจกหน้ากากสู้ฝุ่น PM2.5 ในชุมชน” ติดตามการเยี่ยมบ้านกลุ่มเสี่ยง กลุ่มผู้ป่วยในชุมชนด้วยทีม 3 หมอ จำนวน 11,720 ราย แจกหน้ากาก ทั้งหมด 153,557 ชิ้น นอกจากนี้ ยังได้ให้ทุกอำเภอเตรียมความพร้อมเรื่องการสำรองเวชภัณฑ์ยา/หน้ากากป้องกันฝุ่นสำหรับผู้ป่วย ให้บริการคลินิกมลพิษ เปิดให้บริการ 25 โรงพยาบาล มีผู้มารับบริการ จำนวน 410 ราย และคลินิกมลพิษออนไลน์ มีผู้มารับบริการ จำนวน 53 ราย  จัดทำห้องลดฝุ่นสำหรับประชาชน ทั้งหมด 1,466 ห้อง (ภาครัฐ 1,408 ห้อง และภาคเอกชน 58 ห้อง) ห้องลดฝุ่นในสถานบริการสาธารณสุขครบ 100% และศูนย์พัฒนาเด็กในจังหวัดเชียงใหม่ 516 แห่ง ดำเนินการจัดทำห้องลดฝุ่นไปแล้ว 416 แห่ง ทั้งนี้ยังได้ถ่ายทอดความรู้และประสานงาน อปท. ในการสนับสนุนมุ้งลดฝุ่นให้กับผู้ป่วยกลุ่มยากไร้ในพื้นที่ทุกพื้นที่ รวมถึงการบริการตรวจสุขภาพให้กับอาสาดับไฟ ก่อนออกปฏิบัติงาน โดยดำเนินการเสร็จสิ้นทั้ง 25 อำเภอ ผลการตรวจ 9,799 ราย พบว่า ผลปกติ 9,411 ราย และผลผิดปกติ 388 ราย

ทั้งนี้ ขอแนะนำให้ประชาชนดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัว ในช่วงสถานการณ์ฝุ่นพิษ PM2.5 มีปริมาณเกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ว่าต้องไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งหากปริมาณเพิ่มขึ้นย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เพราะฉะนั้นการรู้วิธีรับมือที่ถูกต้องและปฏิบัติทันทีจะช่วยให้ร่างกายไม่โดนฝุ่นพิษทำร้ายจนรุนแรง โดยขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 หมั่นทำความสะอาดบ้าน และโรงเรียนให้สะอาดห้องปลอดฝุ่น ควรปิดประตูและหน้าต่างให้สนิท เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นละออง พัดเข้ามาในบ้าน ใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น PM2.5 ทุกครั้งที่อยู่กลางแจ้ง เลี่ยงการออกนอกอาคารถ้าไม่จำเป็น หยุดทำกิจกรรมกลางแจ้ง ถ้าจำเป็นต้องทำกิจกรรมในที่โล่งควรลดเวลาให้สั้นที่สุดและสวมหน้ากาก เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว คือกลุ่มเสี่ยงที่ป่วยได้ง่าย ต้องหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้งเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากฝุ่นพิษได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่นๆ  เฝ้าระวังสุขภาพ หากมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจลำบาก แน่นหน้าอก รีบพบแพทย์ทันที

ด้าน นายไพศาล สุขเจริญ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ ถึงสถานการณ์จองห้องพักในส่วนของสมาชิกของสมาคมฯ ล่าสุดจากการตรวจสอบยอดจองเข้ามากว่าร้อยละ 60 คงทรงๆ ตัว แต่ยอดจองในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มีการวางแผนการเดินทางจองเข้ามาแล้วกว่าร้อยละ 70 คาดหวังในห้วงอีก 3-4 วันข้างหน้าที่ยอดจองจะขยับขึ้น ในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวไทยยอมรับว่าตอนนี้เข้ามาไม่มาก ประกอบกับพฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนไทย ไม่นิยมจะวางแผนหรือจองเข้ามาล่วงหน้า ใช้การตัดสินใจอยากไปท่องเที่ยวที่ไหนตามอำเภอใจมากกว่า มีการตัดสินใจวันต่อวัน ยอมรับนักท่องเที่ยวชาวไทยยังน้อยในขณะนี้  และมีการตรวจเช็กสภาพอากาศ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องรอดูในห้วง 3- 4 วันข้างหน้า การเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวชาวไทยจะขยับมาขึ้นอีกเท่าไร แต่จังหวัดเชียงใหม่ก็ได้เริ่มกิจกรรมต่างๆ  เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว จุดไฮไลต์คูเมืองเชียงใหม่ ก็ได้พร่องระบายน้ำเปลี่ยนน้ำใหม่เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มั่นใจน้ำสะอาดปลอดภัยใช้สาดเล่นในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ อีกจุดของจังหวัดคืออุโมงค์น้ำบริเวณข่วงประตูท่าแพ

ขณะเดียวกันพบว่าการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทย ส่วนใหญ่จะกลับไปยังบ้านเกิด เพื่อร่วมกิจกรรมกับครอบครับ ญาติมิตร ตามจังหวัด อำเภอของตนเองมากกว่าใช้เวลาอยู่กับครอบครัว อีกทั้งมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก ทั้งตามชุมชน ตามอำเภอต่างๆ ให้ได้เดินทางไปท่องเที่ยว จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางเข้ามาจังหวัดเชียงใหม่ ขณะเดียวกันคาดหวังตามประกาศของอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ แจ้งเตือนหากมีลมพายุฤดูร้อนเข้ามา จะคาดว่าจะช่วยให้ปัญหาฝุ่นควันไฟป่าลดเบาบางลงไป อย่างไรก็ดี จังหวัดเชียงใหม่ยังน่าท่องเที่ยว มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัส