เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกคืนวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา นายทรัพย์ทวี กุลสารี นายก อบต.ท่ากระดาน และ ร.อ.สุระ โสรักนิษฐ์ ผบ.กองร้อยทหารพรานที่หนึ่ง 306 รับแจ้งมีชาวบ้านถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต ในพื้นที่หมู่ 21 บ้านคลองเตย ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา จึงประสานพนักงานสอบสวน สภ.สนามชัยเขต เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ อส.อบต.ท่ากระดาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณใต้ต้นไม้ภายในป่ายางข้างทาง พบศพ นายประหยัด ชะลิตะ อายุ 65 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ศีรษะด้านหลังมีบาดแผลขนาดใหญ่ เลือดออกปากออกจมูก ห่างออกไปประมาณ 3 เมตร ข้างทางฝั่งตรงข้ามติดถนน พบรถซาเล้งของผู้เสียชีวิต จอดอยู่หน้าร้านขายของชำใจกลางชุมชน จึงเก็บและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

สอบถาม นายวิลัย พาเวก อายุ 67 ปี เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ติดร้านของชำ เล่าว่า ช่วงที่เกิดเหตุ ตนนั่งอยู่ภายในบ้าน ได้ยินเสียงคนร้อง โอ๊ย เจ็บ เหมือนโดนทำร้าย คาดว่าน่าจะโดนช้างป่าทำร้าย เพราะช่วงนี้เห็นช้างป่าตัวนี้มาแถวบ้านตนบ่อย เป็นช้างขนาดใหญ่ มีงางามใหญ่ประมาณแขน คาดว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายขี่รถซาเล้งมาจอดแล้วเดินมาเรียกเจ้าของร้านขายของชำเพื่อจะซื้อของ ระหว่างนั้นคาดว่าช้างป่าอาจเดินผ่านมาแล้วได้ยินเสียง จึงตรงเข้ามาใช้งวงจับผู้เสียชีวิตเหวี่ยงไปอีกฝั่งถนนซึ่งเป็นป่ายางและพุ่งเข้าไปทำร้ายจนเสียชีวิต ซึ่งตอนนี้ตนและครอบครัว รวมถึงชาวบ้านต่างหวาดกลัวช้างป่ามาก เพราะช่วงนี้ออกมาให้เห็นบ่อย

หลังเกิดเหตุ นายทรัพย์ทวี กุลสารี นายก อบต.ท่ากระดาน ลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ พร้อมกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่คาดฝัน เพราะว่าช้างป่าเดินมาบนถนน แถมยังเป็นเขตชุมชนคนมาซื้อของที่ร้านค้า ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่า หมู่บ้านนี้เหมือนเป็นหน้าด่านที่อยู่ติดกับคูกั้นช้าง และการที่เรากำลังซ่อมคูกั้นช้างที่เสียหายให้กลับมาใช้งานได้นั้น ยังไม่แล้วเสร็จ หากคูกั้นช้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะสามารถที่จะป้องกันได้ 60-70% แต่ตอนนี้ก็พยายามสุดความสามารถ เพื่อช่วยชาวบ้านในพื้นที่อย่างเต็มที่

บุตรสาวผู้เสียชีวิตเดินทางมายังที่เกิดเหตุ กล่าวทั้งน้ำตาว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำซากแล้ว ซึ่งช่วงนี้ช้างป่ามันออกมาตรงนี้เยอะมากๆ