ผ่านพ้นเทศกาลมหาสงกรานต์ของไทย ปีนี้รัฐบาลประกาศจัดสุดยิ่งใหญ่  หนึ่งในมุดหมาย Sofe Power ดันเป็นเทศกาลระดับโลก ที่ใครๆ ก็อยากมาร่วมสาดน้ำ สาดความสุข ในประเทศไทย ยิ่งปีนี้อากาศร้อนแบบ ‘โลกเดือด’ หลายพื้นที่ที่ได้จัดเต็มสาดความบันเทิงกันเต็มที่  ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ  เชียงใหม่ ขอนแก่น สมุทรปราการ ชลบุรี ภูเก็ต ปลุกขบวนรถพาเหรด แสง สี เสียง แปลอักษรโดรนสุดอลังการเต็มท้องฟ้าสนามหลวง  ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ ประทับใจไม่รู้ลืมกับเทศกาลมหาความสุขครั้งนี้  ทางหอการค้าไทย ประเมินเม็ดเงินสะพัดครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 128,834 ล้านบาท  ได้รับเสียงชื่นชมอื้ออึง ทั้งคนไทย และต่างชาติ เห็นได้จากสำนักข่าวต่างประเทศต่างพากันรายงานบรรยากาศสนุกครึกครื้น    

ยิ่งเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ ผู้คนต่างหลั่งไหลมาเที่ยวเท่าไร ปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่ตามมาหนีไม่พ้น “ปริมาณขยะ” มหาศาล ที่กองพะเมินหลังจบงานในแต่ละวัน นับแค่ปริมาณขยะแค่ในกทม. ทั่วทั้ง50เขต  ช่วงสงกรานต์ระหว่างวันที่ 10-16เม.ย.67 รวมแล้วกว่า 51,437.43 ตัน เฉลี่ยต่อวัน 7,348.20 ตันส่วน เพิ่มขึ้นจากปี 66 ที่มีปริมาณขยะทั่วกทม.ทั้ง50เขต ช่วงเวลาเดียวกัน  รวม 50,767.67 ตัน เฉลี่ยต่อวัน 7,252.52 ตัน  ปริมาณขยะเพิ่มขึ้น หรือเพิ่มขึ้นถึง 669.76 ตัน ปริมาณขยะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้น 1.3% และมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพิ่มขึ้น 2 tCO2e  

โดย “เอกวรัญญู อัมรปาล” โฆษก กทม. ระบุว่า ปริมาณขยะที่เกิดขึ้นช่วงสงกรานต์ในพื้นที่กทม.ในพื้นที่จัดงานที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเป็นจำนวนมากอย่าง อย่างเช่น บริเวณถนนข้าวสารและโดยรอบ มีปริมาณ ระหว่างวันที่ 12-15 เม.ย.67 รวมทั้งสิ้น 162 ตัน ส่วนที่สีลมนั้นเบื้องต้น สำนักงานเขตบางรักรายงานยอดปริมาณขยะสงกรานต์สีลม  ระหว่างวันที่ 13-14 เม.ย. รวม 33.51 ตัน

ปัญหา และอุปสรรคในการจัดเก็บขยะช่วงสงกรานต์นั้น บางส่วนจะไม่มีการคัดแยก และขยะจะเปียกน้ำ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการจัดเก็บมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อคัดแยกขยะก่อนนำขึ้นรถไปส่งกำจัดในศูนย์กำจัดขยะ 3 แห่ง ประกอบด้วย 1. ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยอ่อนนุช 2. ศูนย์กำจัดขยะหนองแขม 3. ศูนย์กำจัดขยะสายไหม ตามระบบเหมือนในช่วงเวลาปกติ แต่ทั้งนี้ในบางพื้นที่จัดงาน กทม.ได้มีการตั้งถังขยะแบบคัดแยกไว้และมีเจ้าหน้าที่คอยประจำการเพื่อแนะนำประชาชน นักท่องเที่ยวให้ทิ้งขยะลงถังอย่างถูกต้อง ปริมาณส่วนใหญ่ยังเป็นถุง กล่อง พลาสติก กล่องกระดาษ กล่องโฟม กระป๋องแป้ง ขัน ถังพลาสติก แป้ง ขวดเบียร์ ขวดเหล้า  

ขณะที่ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์”  ผู้ว่าฯกทม. ได้ไลฟ์สด ผ่านเฟสบุ๊ก “ชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์” ระหว่างลงพื้นที่ ตรวจพื้นที่และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดฯ เจ้าหน้าที่กวาด สำนักงานเขตพระนคร ในการทำความสะอาดถนนข้าวสารหลังจบงานสงกรานต์เมื่อคืน 15 เม.ย. เดินลัดเลาะไปตามถนนรามบุตรี ทะลุถนนจักรพงษ์ ซึ่งพื้นถนนขาวโพลนไปด้วยแป้ง ขยะ ขวดแก้ว ลังกระดาษ ปืนฉีดน้ำ ถังน้ำ กระป๋องแป้ง โดยเจ้าหน้าที่เริ่มทำความสะอาดตั้งแต่เวลา 04.00 น. พร้อมรถน้ำกว่า 6 คัน เก็บกวาดขยะ จัดเก็บอุปกรณ์ และฉีดล้างทำความสะอาดถนนข้าวสาร และพื้นที่โดยรอบ ซึ่งคาดว่าจะทำความสะอาดแล้วเสร็จในช่วงบ่ายวันที่ 16 เม.ย.

“ หลังทุกคนสนุกกัน จากนั้นก็เป็นหน้าที่เราที่ต้องมาล้างทำความสะอาดกันต่อไป ขอบคุณพี่กวาดทุกคนผู้ที่ช่วยทำให้เมืองเราเรียบร้อยขึ้น”

ไม่เพียงเฉพาะเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดฯ ของหน่วยงานต่าง ๆ เท่านั้นที่จะต้องดูแลรักษาความสะอาดช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ประชาชนคนออกมาสาดความสนุกบนถนนทุกเส้นทุกสายก็จำเป็นจะต้องตระหนักถึงการรับผิดชอบ ‘ขยะ’ หลังอุปโภคบริโภคด้วยเช่นกัน โดยการรับผิดขอบที่กล่าวมานั้น ไม่ใช่การทิ้งขยะลงถังเพียงอย่างเดียว แต่ยังหมายถึงการรู้จัก ‘แยกขยะ’ ให้ถูกประเภทก่อนการทิ้ง เพื่อให้ขยะถูกนำไปรีไชเคิลและกำจัดอย่างถูกวีธี  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดขยะ ลดการสิ้นเปลืองพลังงานในการผลิตสินค้าขึ้นใหม่ ที่นอกจากจะเซฟโลกได้แล้ว ยังช่วยเซฟเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานใกล้ชิดกับขยะอีกด้วย

สำหรับจุดสังเกตง่ายๆ ที่ใครๆ ก็สามารถ ‘แยกขยะ’ ได้ มีดังนี้

ถังขยะสีเขียว มีไว้สำหรับทิ้ง ‘ขยะอินทรีย์’ หรือที่เข้าใจกันดีในชื่อ ‘ขยะเปียก’ หรือ ‘ขยะเน่าเสีย’ ที่สามารถย่อยสลายได้เร็ว ไม่ว่าจะเป็น เศษอาหาร เนื้อสัตว์ เปลือกผักผลไม้ เศษตอกไม้ใบหญ้า

ถังขยะสีน้ำเงิน มีไว้สำหรับทิ้ง “ขยะทั่วไป’ ซึ่งใช้เวลาในการย่อยสลายนานและไม่นิยมนำกลับมาริไซเคิล อาทิ เศษยาง เศษกระดาษปนเปื้อนน้ำมัน กล่องโฟม ซองขนม ถุงแกง เป็นต้น

ถังขยะสีเหลือง มีไว้สำหรับทิ้ง ‘ขยะริไชเคิล’ อย่างที่หลายคนพอจะทราบกันดี มีตั้งแต่ ถุงพลาสติก กล่องนม กระป้อง ขวดแก้ว กระดาษต่างๆ ยกเว้นกระดาษทิชชู่

ถังขยะสีแดง มีไว้สำหรับทิ้ง ‘ขยะอันตราย’ ตั้งแต่ หลอดไฟ แบตเตอรี่มือถือ กระป๋องสารเคมี ยาและเครื่องสำอางค์หมดอายุตลอดจนขยะที่เป็นวัตถุไวไฟ โดยขยะในกลุ่มนี้จะต้องนำไปถุงสีทึบและมัดปากไว้ให้แน่นด้วยเชือกหรือเทปสีส้มก่อนทิ้ง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการบ่งบอกถึงประเภทของขยะให้เจ้าหน้าที่สังเกตได้โดยง่าย

วิธีง่ายๆ เพียงเท่านี้ ไม่ว่าเทศกาลไหนๆ สนุกไปด้วย แถมยังช่วยรักษ์โลกได้อีกด้วย