สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงลูซากา ประเทศแซมเบีย เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ว่า ประธานาธิบดีฮาเคนเด ฮิชิเลมา ผู้นำแซมเบีย ร้องขอความช่วยเหลือในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ โดยกล่าวว่า ประชาชนในแซมเบียประมาณครึ่งหนึ่ง ได้รับผลกระทบร้ายแรงจากภาวะแล้งที่ยืดเยื้อยาวนาน ซึ่งเป็นผลจากปรากฏการณ์สภาพอากาศ “เอลนีโญ”

“แซมเบียมีปริมาณน้ำฝนที่ต่ำมากในปีนี้ และเผชิญกับภัยแล้งครั้งเลวร้ายที่สุด เท่าที่ประเทศเคยประสบ นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูล” ฮิชิเลมา กล่าวเพิ่มเติมว่า การขาดแคลนฝน ทำให้ภาคส่วนเกษตรกรรมได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยส่งผลกระทบต่อพืชผลและทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ อีกทั้งประชาชนมากกว่า 6 ล้านคน ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วนด้วย

อย่างไรก็ตาม แซมเบีย ซึ่งประกาศให้ภาวะแล้งในประเทศเป็นภัยพิบัติแห่งชาติ เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา มีเงินเพียงประมาณ 51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,900 ล้านบาท) จากจำนวน 940 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 34,000 ล้านบาท) ที่ประเทศต้องใช้ในการจัดการวิกฤติ

“ด้วยใจที่หนักแน่น และในนามของรัฐบาลกับประชาชนของแซมเบีม เราขอวิงวอนต่อประชาคมระหว่างประเทศ, หุ้นส่วนภายในประเทศ, ภาคเอกชน, คริสตจักร และองค์กรประชาสังคม ให้ช่วยพวกเราวางแผนทางการเงินและทางวัตถุ ในการบรรเทาผลกระทบร้ายแรงจากภัยแล้ง” ฮิชิเลมา กล่าว

ขณะนี้ ปรากฏการณ์สภาพอากาศเอลนีโญ กำลังสร้างความเสียหายมหาศาลทั่วแอฟริกาตอนใต้ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ซิมบับเว และมาลาวี ได้ประกาศให้ภัยแล้งในประเทศ เป็นภัยพิบัติระดับชาติ รวมถึงขอความช่วยเหลือจากนานาชาติเช่นกัน.

เครดิตภาพ : AFP