เมื่อวันที่ 18 เม.ย. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์กรณีมีกระแสข่าว จะมีการขอปรับเปลี่ยนตำแหน่งประธานสภา เพื่อใช้รองรับการปรับคณะรัฐมนตรีให้ลงตัวว่า ส่วนตัวไม่ยึดติดตำแหน่งแห่งในการเป็นประธานสภาครั้งแรก ตนก็ลาออกเพื่อไปรับตำแหน่งเลขาธิการพรรคความหวังใหม่ ให้พรรคเดินหน้าให้ทุกอย่างลงตัวโดยไม่มีใครมากดดัน และการเป็น สส. ตอนปี 62 ตนก็ลาออกจากการเป็น สส. เพื่อให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคในขณะนั้น ได้เข้ามาเป็น สส. เพราะ พ.ต.อ.ทวี ทุ่มเทให้กับพรรคและมีอนาคตในเส้นทางการเมือง ก็จะได้ประสบการณ์การทำงานสภา ก่อนได้ตำแหน่งรัฐมนตรี ยืนยันตนไม่ยึดติด ตนไม่อยากให้ฝ่ายนิติบัญญัติถูกแทรกแซงจากฝ่ายใด เนื่องจากตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ถือเป็นหนึ่งในสามเสาหลักประชาธิปไตย ที่ฝ่ายอื่นจะเข้ามาแทรกแซงไม่ได้ จึงมีการกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญว่าตำแหน่งดังกล่าว ต้องเป็นกลาง ไม่มีพันธะกับพรรคการเมือง ไม่เป็นกรรมการบริหารพรรค และตำแหน่งที่ตนได้รับ ก็มาจากการที่มีคนเสนอชื่อตน และสมาชิกโหวตเลือกให้เข้ามาทำหน้าที่ ถ้ามีการแทรกแซงให้ตนลาออกสภา ก็จะไม่ใช่สภา การปรับคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของนายกฯ ที่จะเปลี่ยนแปลงได้ตามรัฐธรรมนูญ ส่วนตำแหน่งประธานสภา เป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้อยู่ในวาระที่กำหนดไว้ ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ยกเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ หมดวาระ หรือลาออก ยืนยันตนไม่ยึดติดกับตำแหน่ง แต่ต้องการรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของฝ่ายนิติบัตญัติไว้ ต้องการธำรงไว้ซึ่งหลักการเพื่อให้ประชาธิปไตยของไทยเดินไปข้างหน้า