เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้เข้าพบนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อช่วงสายของวันนี้ (26 เม.ย.) เพื่อขอสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ จากนั้นในช่วงบ่าย นายมงคลกิตติ์ได้มาสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผมภายในที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ตามด้วยการสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์

โดยนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ตนได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว และได้ขอพรจากพระแม่ธรณีฯ ทั้งนี้ตนตั้งใจทำให้พรรคประชาธิปัตย์ดังในทางที่เป็นประโยชน์ และเป็นทางเลือกของประชาชน เพื่อให้พรรคฯ กลับมาได้รับความนิยมเหมือนช่วงที่ได้ สส.กว่า 200 ที่นั่ง สำหรับการมาสมัครสมาชิกพรรคฯ เป็นการพูดคุยกันมาก่อนหน้านี้ และเมื่อตนตัดสินใจว่าจะสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จึงได้เดินทางไปพบนายเฉลิมชัย ที่บ้านพักในเวลา 11.30 น. เพื่อแจ้งความประสงค์ จากนั้นตนจึงเดินทางเข้ามายังพรรคประชาธิปัตย์เพื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรคฯ และได้พบกับนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคฯ ด้วย ซึ่งนายชวนก็ยินดีที่มีคนมาช่วยพรรคฯ ทั้งนี้ ตนจะไปร่วมสังเกตการณ์การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 พรรคประชาธิปัตย์ ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ในวันที่ 27 เม.ย.ด้วย

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า การที่ตนเลือกที่จะเข้าพรรคประชาธิปัตย์เพราะตนเข้าใจกฎระเบียบต่างๆ อยู่แล้ว และเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ช่วงตกจึงต้องการขุนพล รวมทั้งเป็นพรรคที่มีเจ้าของ และเป็นพรรคที่มีการเมืองเยอะที่สุด เมื่อตนเข้ามาก็จะสามารถดึงคนรุ่นใหม่ให้พรรคพอสมควร ตนจึงต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นหลักของบ้านเมืองเป็นที่พึ่งของประชาชนได้และต้องการให้คนรุ่นใหม่เข้ามาเยอะๆ

เมื่อถามว่าทำไมเลือกเข้าพรรคประชาธิปัตย์ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ตนรู้จักกับนายเฉลิมชัยมาเป็น 10 ปี มีบุญคุณต่อกัน ดังนั้นการที่ตนเลือกที่จะเข้าพรรคประชาธิปัตย์เพราะต้องการเข้ามาช่วยพรรค และทดแทนบุญคุณนายเฉลิมชัย ตนได้เป็น สส.ครั้งแรก ก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากนายเฉลิมชัย

เมื่อถามว่ามีการพูดคุยถึงตำแหน่งในพรรคหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกัน จะให้ตนทำอะไรก็ได้จะทำเต็มที่ ซึ่งตนสามารถที่จะช่วยเหลือพรรคได้เรียกว่าเป็นม้าเร็วในการเคลื่อนที่ไป 77 จังหวัด ซึ่งการลงพื้นที่ ตนชำนาญทั้งหมด ไม่ต้องฝึกกันแล้ว ส่วนเรื่องการตรวจสอบการทุจริตก็เห็นฝีมือตนอยู่แล้ว และถ้ามีการเลือกตั้งซ่อมเกิดขึ้น ตนก็พร้อมจะลงสมัครทั้งกรุงเทพฯ จ.นนทบุรี และพิษณุโลก