เมื่อวันที่ 3 พ.ค. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงหลายราย โดยมีรายชื่อน่าสนใจ คือ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กรณีเข้ารับตำแหน่งกรรมการบริหารกิจการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2567 โดย พล.ต.ท.ปิยะ แจ้งมีทรัพย์สิน 33,281,544 บาท ได้แก่ เงินฝาก 19,731,544 บาท ที่ดิน 1 แปลง น.ส.4 จ. ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 3.5 แสนบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2 หลัง 6 ล้านบาท มีรถยนต์ 1 คัน โตโยต้า รุ่นครอส ระบุว่าได้รับจากสภากาชาดเมื่อ 29 มิ.ย. 2566 ระบุมูลค่า 0 บาท ส่วนทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) เป็นทองรูปพรรณ หนัก 80 บาท มูลค่า 2.8 ล้านบาท พระเครื่อง มิได้ระบุจำนวน มูลค่า 2 ล้านบาท นาฬิกาโรเล็กซ์ 6 เรือน 2.4 ล้านบาท รวมมูลค่า 7.2 ล้านบาท ไม่มีหนี้สิน มีรายได้ต่อปีโดยประมาณ 2,505,120 บาท เป็นเงินเดือน 1,078,416 บาท ค่าตอบแทนพิเศษ 202,752 บาท ค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือน 593,952 บาท รายได้จากจากการขายทองคำหนัก 15 บาท มูลค่า 6.3 แสนบาท

ส่วนนางพิยดา ต๊ะวิชัย คู่สมรส ระบุสถานะมิได้ประกอบอาชีพ มีทรัพย์สิน 54,184,353 บาท ได้แก่ เงินฝาก 22,441,599 บาท เงินลงทุน 3 แห่ง ในบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเม้น จำกัด (มหาชน) 1.2 ล้านหุ้น, บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) 376,363 หุ้น และบริษัท พีพี ไพร์ม จำกัด (มหาชน) 2.8 แสนหุ้น รวมมูลค่าทั้งหมด 724,054 บาท ที่ดิน 3 แปลงเป็น น.ส.4 จ.ทั้งหมดใน กทม. รวมมูลค่า 8,333,700 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2 หลัง 20,535,000 บาท ยานพาหนะ 3 คัน 2,150,000 บาท ไม่มีหนี้สิน มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 7.2 แสนบาท เป็นค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงินเดือน

รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 87,465,897 บาท ไม่มีหนี้สิน

ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีต สส.กทม. พรรคเพื่อไทย กรณีเข้ารับตำแหน่งกรรมการบริหารกิจการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2567 โดยนายจิรายุ แจ้งสถานะ “หย่า” เมื่อ 24 ม.ค. 2565 มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 197,128,272 บาท ได้แก่ เงินสด 1.6 ล้านบาท เงินฝาก 438,272 บาท ที่ดิน 40 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 26 ล้านบาท ยานพาหนะ 4,740,000 บาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 124,350,000 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 1,525,041 บาท

มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 1,250,000 บาท เป็นเงินเดือน 8 แสนบาท เงินกองทุน 1.5 แสนบาท อื่น ๆ 3 แสนบาท รายจ่ายรวม 5,636,000 บาท เป็นค่าอุปโภคบริโภค 1.5 ล้านบาท ค่าผ่อนบ้าน 576,000 บาท ค่าเลี้ยงดูบุตร 2 คน 2.4 ล้านบาท กิจกรรมครอบครัว 3.6 แสนบาท ท่องเที่ยว 8 แสนบาท

ทรัพย์สินที่น่าสนใจ เช่น ที่ดิน 6 แปลง มูลค่า 40 ล้านบาท เป็นโฉนดใน กทม. 4 แปลงในพื้นที่เขตลาดพร้าว และเขตคลองสามวา จ.ปทุมธานี 1 แปลง และ น.ส.3 จำนวน 1 แปลง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา นอกจากนี้ยังมีโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างในเขตลาดพร้าว 1 หลัง 10 ล้านบาท และเขตคลองสามวา 2 หลัง โรงรถ 1 หลัง รวมมูลค่า 16 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีอัญมณี เครื่องประดับ 45 รายการ ได้มาเดือน ต.ค. 2565 รวมมูลค่า 43,350,000 บาท ทองคำหนัก 160 บาท ได้มา ต.ค. 2565 รวมมูลค่า 5.2 ล้านบาท อาวุธปืน 15 กระบอก ได้มา 2538-2565 รวมมูลค่า 1.5 ล้านบาท นาฬิกา 13 เรือน ได้มา 2538-2565 รวมมูลค่า 5 ล้านบาท โบราณวัตถุ 350 รายการ ได้มา ต.ค. 2565 รวมมูลค่า 15 ล้านบาท พระบูชา 35 รายการ ได้มา ต.ค. 2565 รวมมูลค่า 8 ล้านบาท พระเครื่องวัตถุมงคล 926 รายการ รวมมูลค่า 46.3 ล้านบาท