ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนโลกออนไลน์กำลังแห่ให้ความสนใจโพสต์นี้กันล้นหลาม หลังจากมีสาวรายหนึ่งออกมาร่ายข้อความจากใจ ที่รู้สึกอึดอัดและเครียดมาก ที่จู่ ๆ แม่ก็เปลี่ยนไปกลายเป็น “นักช้อป” ซึ่งซื้อของเข้าบ้านเยอะมาก โดยเอาวางกองกลางบ้านจนไม่มีที่เดิน และปัจจุบันของที่แม่ซื้อ มาวางเรียงสูงจนจะถึงเพดานบ้าน
โดยสาวเจ้าของเรื่องราวเขียนแชร์ลงกลุ่มเฟซบุ๊ก กลุ่มที่ไม่ว่าพิมพ์อะไรเราก็ให้กำลังใจในทุกเรื่องแบบงงๆอิหยังวะ เล่าว่า ขอวิธีจัดการกับแม่ที่ชอบชอปปิงค่ะ
เราเป็นลูกคนเดียว อยู่กับแม่ อายุ 72 ส่วนพ่อเลิกไปตั้งแต่เรายังเล็ก ตอนนี้เราแต่งงานและสามีย้ายเข้า เรามีลูก 4 คน แม่เราเป็นคนชอบชอปปิงมาก จะต้องไปตลาดทุกวัน แต่ไม่เดินห้างนะ แม่บอกของแพง แต่แม่จะชอบเดินตลาดนัด แถวโซนสีลม ฯลฯ ของส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้า กางเกงทุกชนิด จานชาม ผ้าขนหนู พระเครื่อง (โดนหลอก คาดว่าปลอม แต่แม่บอกว่าแท้) เครื่องประดับ, ของเล่น (ซื้อให้ลูกเราแหละ ซื้อไว้เล่นเองส่วนต้วบางส่วน) รองเท้า (แบบซ้ำๆ) พอจะใส่อีกที เก็บไว้นานจนเอามาใช้ พื้นก็หลุด ตอนออกนอกบ้าน
จุดพีคคือ เมื่อสองเดือนที่แล้ว เราคลอดลูกและนอน รพ. 1 เดือน พอเรากลับมา เห็นความเปลี่ยนแปลงว่าของเยอะขึ้นมาก เราลืมบอกไปว่า แม่เราเป็นไซนัส และ แพ้ฝุ่น แม่จะเก็บเสื้อผ้าไว้ที่ห้องนอน ซึ่งตอนนี้ มันลามไปบนเตียงแล้ว แม่จะเก็บของใส่ถุง เหมือนตั้งแต่ไปซื้อมา อยากให้ดูรูปประกอบนะ คือมันเยอะเกินจำเป็น
และวันหนึ่ง เราจะต้องการหากางเกงของเรา ซึ่งเก็บไว้ที่โถงห้องกลาง สรุปเราไม่สามารถหากางเกงเราเจอได้ เพราะเสื้อผ้าของแม่ ทับเสื้อผ้าของเราที่พับไว้หมด เราโมโห เพราะมันเยอะเกินที่มนุษย์ปกติจะใช้ ขนาดแม่สามีเราแวะมา เขายังตกใจว่า มันเยอะมาก ขนาดเปิดร้านได้เลย เราทะเลาะกับแม่เรื่องนี้ เพราะเราจำได้ตั้งแต่เด็ก ยายก็บ่นเรื่องนี้ ยายกับน้าจะบอกเสมอว่าให้เก็บเงินไว้บ้าง เพราะแม่เราไม่ได้รวยและไม่ได้ทำงาน และบ้านเราก็เล็กมาก ๆ ห้องรกแบบนี้ทุกห้อง (ช่วงที่อยู่ รพ. 1 เดือน เราสังเกตเห็น online banking ของแม่ เงินหมดไป 2 แสน)
แม่เราบอกว่า เขามีปม ที่สาว ๆ จะต้องรอเก็บเงิน วันเงินเดือนออก ถึงสามารถซื้อของได้ เราบอกแม่ว่า มันเยอะเกินจำเป็นที่มนุษย์จะใช้ และผ่านไป แม่ก็เอาของพวกนี้ไปแจกคนอื่น แม่บอกว่า แม่จะอยู่อีกกี่ปี จะตายเมื่อไรก็ไม่รู้ มันเป็นความสุขของเขา แล้วว่าเราบาป ที่เราไปว่าเขา แต่เราว่ามันไม่เกี่ยวกัน คือเราพูดเพื่อเตือนสติ เขาไม่เก็บเงินเพื่อไว้ใช้ยามฉุกเฉินเลย
แม่จะชอบบอก ถ้าชอบก็ซื้อ ซึ่งจริง ๆ มันกลับกัน แม่ควรบ่นให้ลูกเก็บเงินมากกว่า เราเครียดมาก เพราะของจะสูง ถึงเพดานห้อง จนไม่มีทางเดินแล้ว เราจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรดีคะ จากใจนะ ป.ล. แม่เห็นแบบนี้ แม่จะงกกับเรื่องคนงาน ใช้น้ำยาล้างจานเปลือง ใช้ทิชชูเปลือง หรือกับข้าว จะต้องอุ่นกิน 6-7 รอบซ้ำ ๆ จนกว่าจะหมด บางทีเต็มตู้เย็นจนบูด เพราะอาหารแน่นตู้เกิน ป.ล. ถ้าบอกว่า แม่เราเหงา ไม่มีกิจกรรม เราจะบอกว่า แม่ไม่ได้อยู่บ้านช่วยเลี้ยงหลานเลย วัน ๆ ก็ออกไปใช้เงิน // ต้นไม้ก็ปลูก ก็มีงานอดิเรก // หนังสือก็ซื้อมาเก็บเต็มบ้าน แต่ก็อ่านไม่ทัน
ขณะที่ความเห็นชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างชื่นชมลูกสาวที่เลี้ยงดูคุณแม่อย่างดี ให้เงินใช้ไม่มีขาดมือ พร้อมพากันแนะนำว่าเคสนี้อาจจะต้องพาพบจิตแพทย์ เพราะเรื่องราวของแม่คล้ายคนเป็น โรค Shopaholic หรือโรคทางจิตเสพติดการชอปปิง อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตยังพากันกดไลก์กดแชร์ส่งกำลังใจให้สาวคนดังกล่าวอีกด้วย…
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @ฝนตก วันฝนพรำ
