สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ว่ากระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์ ว่าศูนย์บัญชาการภูมิภาคใต้ของกองทัพรัสเซีย ซึ่งมีขอบเขตอำนาจครอบคลุมพื้นที่ชายแดนติดกับยูเครน และพื้นที่ยึดครองบางส่วน ทางตะวันออกและภาคใต้ของยูเครน จัดการซ้อมรบนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี ตามคำสั่งของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน โดยไม่มีการระบุพื้นที่ฝึกซ้อมอย่างชัดเจน และไม่มีการบอกว่า การซ้อมรบเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และจะใช้เวลานานเท่าใด


ผู้นำรัสเซียมีคำสั่งดังกล่าว เมื่อต้นเดือนนี้ ว่าการฝึกซ้อมรบรบนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี “ต้องเกิดขึ้น” เพื่อยกระดับความพร้อมของกองทัพ ในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน และเป็นการตอบสนองต่อ “ภัยคุกคามจากตะวันตก” โดยเฉพาะคำกล่าวของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ซึ่งยังไม่ล้มเลิกความคิดการส่งทหารเข้ามาในยูเครน และการที่รัฐบาลสหราชอาณาจักร ตลอดจนประเทศตะวันตกอีกหลายแห่ง อ้าง “ความชอบธรรม” ของการให้กองทัพยูเครนใช้อาวุธของตัวเอง เพื่อโจมตีรัสเซีย


นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์ เรื่องการยึดหมู่บ้านบิโลโกริฟกา ซึ่งมีประชากรราว 800 คน ตามสถิติก่อนเกิดสงคราม และเป็นหนึ่งในพื้นที่มีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์สำหรับยูเครน เนื่องจากกองทัพยูเครนเคยยึดหมู่บ้านแห่งนี้ ที่อยู่ใกล้กับเมืองลูฮันสก์ เมืองเอกของภูมิภาคลูฮันสก์ ทางตะวันออกของยูเครน กลับคืนมาได้ เมื่อปี 2565


ในเวลาเดียวกัน กองทัพรัสเซียยังคงรุกคืบอย่างหนัก ที่ภูมิภาคคาร์คิฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนได้อย่างต่อเนื่อง หลังเปิดฉากปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดิน เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ซึ่งปูตินกล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น “เป็นผลจากความผิดพลาดของยูเครนเอง” ที่ยังคงยิงปืนใหญ่มาทางภูมิภาคเบลโกรอด ในภาคตะวันตกของรัสเซีย


ทั้งนี้ ผู้นำรัสเซียเน้นย้ำ “การสร้างเขตปลอดภัย” หรือแนวกันชน ตามแนวชายแดนฝั่งตะวันตกของประเทศ ที่ติดกับยูเครน อย่างไรก็ตาม “ยังไม่มีแผนการ ณ เวลานี้” ที่จะให้ทหารเข้ายึดเมืองคาร์คิฟ เมืองเอกของภูมิภาคคาร์คิฟ ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 1 ล้านคน.

เครดิตภาพ : AFP