สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ว่ากระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์ ว่าศูนย์บัญชาการภูมิภาคใต้ของกองทัพรัสเซีย ซึ่งมีขอบเขตอำนาจครอบคลุมพื้นที่ชายแดนติดกับยูเครน และพื้นที่ยึดครองบางส่วน ทางตะวันออกและภาคใต้ของยูเครน จัดการซ้อมรบนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี ตามคำสั่งของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน โดยไม่มีการระบุพื้นที่ฝึกซ้อมอย่างชัดเจน และไม่มีการบอกว่า การซ้อมรบเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และจะใช้เวลานานเท่าใด
Russia launched exercise with tactical nuclear weapons. Iskander, Tu-22M3 bombers and Mig-31K with Kinzhal missiles will be equipped with "special purpose warheads" https://t.co/S4z8fVyzih pic.twitter.com/zsdL9B7DUC
— Liveuamap (@Liveuamap) May 21, 2024
ผู้นำรัสเซียมีคำสั่งดังกล่าว เมื่อต้นเดือนนี้ ว่าการฝึกซ้อมรบรบนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี “ต้องเกิดขึ้น” เพื่อยกระดับความพร้อมของกองทัพ ในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน และเป็นการตอบสนองต่อ “ภัยคุกคามจากตะวันตก” โดยเฉพาะคำกล่าวของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ซึ่งยังไม่ล้มเลิกความคิดการส่งทหารเข้ามาในยูเครน และการที่รัฐบาลสหราชอาณาจักร ตลอดจนประเทศตะวันตกอีกหลายแห่ง อ้าง “ความชอบธรรม” ของการให้กองทัพยูเครนใช้อาวุธของตัวเอง เพื่อโจมตีรัสเซีย
นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์ เรื่องการยึดหมู่บ้านบิโลโกริฟกา ซึ่งมีประชากรราว 800 คน ตามสถิติก่อนเกิดสงคราม และเป็นหนึ่งในพื้นที่มีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์สำหรับยูเครน เนื่องจากกองทัพยูเครนเคยยึดหมู่บ้านแห่งนี้ ที่อยู่ใกล้กับเมืองลูฮันสก์ เมืองเอกของภูมิภาคลูฮันสก์ ทางตะวันออกของยูเครน กลับคืนมาได้ เมื่อปี 2565
ในเวลาเดียวกัน กองทัพรัสเซียยังคงรุกคืบอย่างหนัก ที่ภูมิภาคคาร์คิฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนได้อย่างต่อเนื่อง หลังเปิดฉากปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดิน เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ซึ่งปูตินกล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น “เป็นผลจากความผิดพลาดของยูเครนเอง” ที่ยังคงยิงปืนใหญ่มาทางภูมิภาคเบลโกรอด ในภาคตะวันตกของรัสเซีย
ทั้งนี้ ผู้นำรัสเซียเน้นย้ำ “การสร้างเขตปลอดภัย” หรือแนวกันชน ตามแนวชายแดนฝั่งตะวันตกของประเทศ ที่ติดกับยูเครน อย่างไรก็ตาม “ยังไม่มีแผนการ ณ เวลานี้” ที่จะให้ทหารเข้ายึดเมืองคาร์คิฟ เมืองเอกของภูมิภาคคาร์คิฟ ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 1 ล้านคน.
เครดิตภาพ : AFP