นับถอยหลังอีกเพียงไม่กี่วัน ก็จะก้าวเข้าสู่ ‘Pride Month’ ในเดือนมิถุนายนของทุกปี ที่ทั่วโลกต่างร้อยเรียงไปด้วยนานาสีสัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหล่า ‘LGBTQ+’ ออกมาร่วมกันแสดงพลังแห่งความภาคภูมิใจในความหลากหลายทางเพศ ยกย่องการยอมรับ และขับเคลื่อนความเท่าเทียม รวมถึงเพื่อเป็นเกียรติแก่ ‘การจลาจลสโตนวอลล์’ ในแมนฮัตตัน เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1969 ที่นับว่าเป็นประวัติศาสตร์สำคัญสำหรับเพศหลากหลาย


แม้ว่า ‘LGBTQ+’ จะถือเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ชุมชน และสังคมของเรา ทว่ากลุ่มคนเหล่านี้กลับยังต้องเผชิญกับการตีตรา การเลือกปฏิบัติ การใช้ความรุนแรง การกีดกัน กระทั่งการถูกปฏิเสธสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน เพียงเพราะรสนิยมทางเพศ และอัตลักษณ์ทางเพศ ตลอดจนเรื่องของอุปสรรคเชิงโครงสร้างและบรรทัดฐานในสังคม ที่เป็นเหตุให้กลุ่มคนดังกล่าว ไม่สามารถมีส่วนร่วมกับสังคมเพื่อให้สอดคล้องกับตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในปี 2030 ได้อย่างเต็มที่ นั่นแสดงให้เห็นว่าปัญหาความเท่าเทียมทางเพศยังคงเป็นประเด็นที่ทุกคนในสังคมจะต้องร่วมมือกันขับเคลื่อนต่อไป


โดยที่ผ่านมา เมื่อถึงช่วง ‘Pride Month’ หลายเมืองจะมีการจัดงานเฉลิมฉลอง กิจกรรม และเทศกาลต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการให้เกียรติความหลากหลาย ส่งเสริมการไม่แบ่งแยก และสร้างการให้คุณค่าและยอมรับซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ช่วงเวลาดังกล่าว ยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ+ ซึ่งนับว่ามีกำลังซื้อสูงและนิยมเดินทางท่องเที่ยว นี่จึงถือเป็นโอกาสทองของ ‘อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว’ ที่กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายและโอกาสใหม่ ในการผลักดันธุรกิจ-บริการสู่ความเท่าเทียม


ข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโลก (World Travel & Tourism Council – WTTC) เปิดเผยว่า กลุ่ม LGBTQ+ ที่ชื่นชอบการเดินทางมีสัดส่วนมากกว่า 10% ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกและคิดเป็น 16% ของค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวทั้งหมด หรือมากกว่า 195 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี รวมถึงมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าการใช้จ่ายเพื่อท่องเที่ยวของกลุ่ม LGBTQ+ จะสูงถึง 568.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 19.70 ล้านล้านบาท ภายในปี 2573

สอดคล้องกับการที่ ‘มรกต กุลดิลก’ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าวใน ‘เวทีเสวนา สานต่อความเท่าเทียมทางเพศ’ จากพัทยาสู่สากล ระดมความเห็น ‘หอการค้า’ ‘สมาคมโรงแรมไทย’ และผู้ประกอบการภาคเอกชน ผลักดันการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจไทย ผ่านกลยุทธ์สร้างความเท่าเทียมในสังคม ที่จัดขึ้นโดย ‘เคทีซี’ โดยระบุว่า เมืองพัทยาพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ+ เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และเดินทางท่องเที่ยวบ่อย ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหารในเมืองพัทยาให้เติบโตขึ้นได้ และด้วยเสน่ห์ของนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ+ หากมีความพึงพอใจในการให้บริการก็จะกลับมาใช้บริการซ้ำ ดังนั้นการให้บริการด้านการท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยมจะเป็นการสร้างความประทับใจและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มาใช้บริการมากขึ้น

“สำหรับการสื่อสารด้านการตลาด เมืองพัทยามีการทำงานร่วมกับสมาคม องค์กรต่าง ๆ สถาบันการศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ+ โดยเฉพาะการแสดงความเป็นมิตร และการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม รวมถึงทัศนคติของคนในท้องถิ่นต่อนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นสิ่งที่เมืองพัทยาให้ความสำคัญและจะช่วยสร้างความมั่นใจรวมถึงการตัดสินใจในการเดินทางของนักท่องเที่ยวได้”

ด้าน ‘ธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล’ ประธานหอการค้าชลบุรี ระบุว่า ภาคการท่องเที่ยวเริ่มเห็นสัญญาณการเติบโตอย่างชัดเจน ซึ่งหอการค้าได้วางกลยุทธ์เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวในพื้นที่ชลบุรีด้วยการยกระดับการท่องเที่ยวชุมชนพร้อมนำนวัตกรรมมาช่วยในการจัดระบบท่องเที่ยว ขณะเดียวกันภาคเอกชนพร้อมให้การสนับสนุนการท่องเที่ยว

โดยเฉพาะเดือนมิถุนายนที่ทั่วโลกได้มีการเฉลิมฉลอง ‘Pride Month’ โดย จ.ชลบุรีมีหลายพื้นที่ซึ่งเป็นหมุดหมายสำหรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางเพศ ดังนั้นจึงเชื่อว่าการท่องเที่ยวจะเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตตามที่หอการค้าคาดการณ์ไว้ที่ 2.7%

สำหรับผู้ประกอบการภาคเอกชน ‘ประณยา นิถานานนท์’ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต ‘เคทีซี’ หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เคทีซีให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งคำนึงถึงการให้โอกาสและความเท่าเทียมในสังคม รวมถึง ‘ความเท่าเทียมทางเพศ’ (Gender Equality) ทั้งในเรื่องการจ้างงาน การปฏิบัติต่อบุคลากรในองค์กรอย่างเท่าเทียม

ขณะเดียวกันเคทีซีก็พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ที่ต้องมาพร้อมความเท่าเทียม ซึ่งพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ถือเป็นหนึ่งจุดหมายสำคัญด้านการท่องเที่ยวและรองรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย รวมถึงเป็นจังหวัดที่เคทีซีมีฐานสมาชิกและยอดรวมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมากเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ด้าน ‘พุทธชาด แปงใจ’ รองประธานฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท ครอส โฮเตลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์ จำกัด ก็ได้กล่าวถึง ‘ครอส พัทยา โอเชียนเฟียร์’ ที่พร้อมสนับสนุนนโยบาย และ ‘สร้างความเป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ+’ โดยร่วมมือกับองค์กรท้องถิ่นในการสนับสนุนและร่วมจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ เทศกาล Pride Month อีกทั้งยังพัฒนาแพ็กเกจท่องเที่ยว และประสบการณ์ที่ออกแบบสำหรับนักเดินทางกลุ่มนี้โดยเฉพาะ เช่น ทัวร์ที่เป็นมิตรกับกลุ่ม LGBTQ+ ประสบการณ์เกี่ยวกับ Nightlife และ Wellness Retreats

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายเรื่องความเท่าเทียม สำหรับสิทธิประโยชน์ของพนักงานทุกกลุ่ม เน้นความเป็นธรรมในการจัดการสิทธิประโยชน์ของพนักงานอย่างเท่าเทียม ซึ่งจะมีส่วนช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี และส่งผลต่อผู้ใช้บริการเข้าพัก ให้ได้รับการบริการและประสบการณ์ที่น่าประทับใจ

เช่นเดียวกันกับ ‘ปรมะ องค์กิตติ’ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เซ็นทรัลพัฒนาให้ความสำคัญกับ ‘การเคารพความแตกต่างของทุกคน’ และให้โอกาสอย่างทั่วถึงกับกลุ่มเพศหลากหลาย โดยช่วงเทศกาล ‘Pride Month’ เซ็นทรัลพัฒนาก็ได้สนับสนุนความหลากหลายและความเท่าเทียม ผ่านการจัดกิจกรรมตลอดทั้งเดือน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ

ภายใต้แคมเปญ ‘THAILAND’S PRIDE CELEBRATION 2024: PRIDE FOR ALL’ เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ เพื่อโอบรับความแตกต่าง หลากหลาย สะท้อน 3 เรื่องสำคัญ คือ ความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม พร้อมประกาศความภาคภูมิใจ ดันประเทศไทย ให้เป็น ‘Top of Pride Destination’ ของคนทั่วโลก