เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรคแถลงสถานการณ์โควิดประจำวันพบผู้ป่วยรายใหม่ 11,140 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,689,437 ราย, รักษาหายป่วยเพิ่ม 9,933 ราย, อยู่ระหว่างรักษาตัว 110,113 ราย ในจำนวนนี้อาการหนัก 3,003 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 682 ราย, เสียชีวิตเพิ่ม 116 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 17,534 ราย

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดประกอบด้วย กรุงเทพฯ 1,255 ราย, ยะลา 776 ราย, ชลบุรี 687 ราย, นราธิวาส 592 ราย, สมุทรปราการ 576 ราย, ปัตตานี 503 ราย, สงขลา 444 ราย, นครศรีธรรมราช 395 ราย, ระยอง 342 ราย และจันทบุรี 284 ราย

นพ.เฉวตสรร เปิดเผยว่าประเด็นที่ต้องจับตาคือระหว่างวันที่ 21 ก.ย.-7 ต.ค. พบผู้ติดเชื้อจากงานศพจำนวน 838 ราย กระจายในพื้นที่ 30 จังหวัด และพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน 30 คลัสเตอร์ โดยคลัสเตอร์ที่พบผู้ติดเชื้อมากสุดคืออำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี 148 ราย, อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี 115 ราย และอำเภอเบญจลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ 108 ราย โดยมีปัจจัยมาจากสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ, ไม่สวมหน้ากากอนามัย, รับประทานอาหารดื่มสุราร่วมกัน, เล่นการพนันหลังงานศพ

นพ.เฉวตสรร เน้นย้ำประเทศไทยมีหลายคลัสเตอร์ทั้งคลัสเตอร์ล้งผลไม้, คลัสเตอร์หมูกระทะ, คลัสเตอร์งานบุญและงานศพ ดังนั้นต้องระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม พร้อมประเมินภายหลังมาตรการคลายล็อกหากไม่ป้องกันดีพอ ตัวเลขผู้ติดเชื้ออาจสูงขึ้นไปถึงระดับ 25,000-30,000 รายต่อวัน.