ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์ วันอาทิตย์ที่ 24 ต.ค. เวลา 22.30 น. ถ่ายทอดสดทาง PPTV 36 เกมแดงเดือดของคู่รักคู่แค้น ระหว่าง “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มี 14 แต้ม เปิดบ้านเจอกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่มี 18 แต้ม

โอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือ “เร้ด เดวิลส์” ที่ไม่ชนะในลีกมา 3 นัดติดต่อกัน อาจจะไม่มี บรูโน แฟร์นันด์ส ที่เจ็บมาจากเกมกลางสัปดาห์ต้องรอทดสอบความฟิตว่าไหวหรือไม่ เช่นเดียวกับ เฟรด มิดฟิลด์บราซิล ส่วนมาร์คัส แรชฟอร์ด ก็เจ็บมาเหมือนกันแต่น่าจะไหว ส่วน ราฟาเอล วาราน กองหลังยังบาดเจ็บ

ดาบิด เด เคอา เป็นผู้รักษาประตู แผงหลังมี แอรอน วาน บิสซากา, วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, แฮร์รี แม็คไกวร์ และ ลุค ชอว์ แดนกลางหาก เฟรด ฟิตไม่ทันน่าจะใช้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ คู่กับ ปอล ป็อกบา แนวรุกมี เมสัน กรีนวูด, แฟร์นันด์ส, แรชฟอร์ด และ คริสเตียโน โรนัลโด เป็นหัวหอก

เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือลิเวอร์พูล หวังว่าจะได้เคอร์ติส โจนส์ กลับมาทันเวล แต่ ติอาโก อัลคันทารา ยังต้องพักไปก่อนรวมถึง ฮาร์วีย์ เอลเลียต

ฟาบินโญ จะกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งหลังเป็นแค่สำรองในเกมชนะแอตเลติโก มาดริด แทนที่ เจมส์ มิลเนอร์ หรือ นาบี เกอิตา

การจัดทีมอลิสซง เบคเกอร์ เฝ้าเสา กองหลังใช้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ตรงกลางมี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ, มิลเนอร์ และ 3 ประสานแนวรุก โม ซาลาห์ ที่กำลังร้อนแรง ร่วมกับ โรแบร์โต ฟีร์มิโน และ ซาดิโอ มาเน

สถิติเจอกันมาทั้งสิ้น 181 ครั้ง แมนฯ ยูฯ ชนะ 70 เสมอ 51 แพ้ 60 และหากนับเฉพาะในบ้าน แมนฯ ยูฯ ก็ยังเหนือกว่าด้วยสถิติชนะ 44 เสมอ 29 แพ้ 18

อย่างไรก็ตาม 10 ครั้งหลังสุดที่เจอกันมาในลีก แมนฯ ยูฯ ชนะแค่ครั้งเดียว กระนั้นมี 6 เกมที่จบด้วยผลเสมอ โดยฤดูกาลก่อนลิเวอร์พูลบุกชนะ 4-2

ขณะเดียวกันในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ทีมที่มีคำว่า “ยูไนเต็ด” อยู่ในชื่อมาแล้ว 25 นัดติดต่อกัน ขาดอีกเกมเดียวก็จะทำสถิติเท่ากับเบรนท์ฟอร์ด ที่ทำไว้ระหว่างปี 1998-2000