สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ว่า นายสกอตต์ เบสเซนต์ รมว.การคลังสหรัฐ และนางยูเลีย สวีรีเดนโก รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เศรษฐกิจของยูเครน ลงนามร่วมกันในข้อตกลง “การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ” โดยจะเป็นการจัดตั้งกองทุนร่วมระหว่างสองประเทศ เพื่อสำรวจแร่ธาตุและทรัพยากรธรรมชาติอื่น ที่รวมถึงก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน และจะมีการแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน
ทั้งนี้ เบสเซนต์อธิบายว่า กองทุนดังกล่าวคือ “กองทุนเพื่อการฟื้นฟูยูเครน” เพื่อเป็นการรับรอง “ความสนับสนุนทางการเงินและยุทโธปกรณ์อย่างมีนัยสำคัญ” ที่สหรัฐมอบให้แก่ยูเครน นับตั้งแต่สงครามกับรัสเซียปะทุ เมื่อปี 2565 พร้อมทั้งยืนยันว่า “ฝ่ายที่สนับสนุนรัสเซียจะไม่มีทางได้รับผลประโยชน์จากกองทุนนี้” และเป้าหมายของกองทุนนี้ “จะเป็นการปลดล็อกศักยภาพด้านทรัพย์สินเพื่อการเติบโตของยูเครน”
Thanks to @POTUS @realDonaldTrump’s tireless efforts to secure a lasting peace, I am glad to announce the signing of today’s historic economic partnership agreement between the United States and Ukraine establishing the United States-Ukraine Reconstruction Investment Fund to help… pic.twitter.com/N1jPa35DYh
— Treasury Secretary Scott Bessent (@SecScottBessent) April 30, 2025
ขณะที่สวีรีเดนโกกล่าวว่า การร่วมตั้งกองทุนกับสหรัฐ จะเป็นการดึงดูดให้นานาประเทศเข้ามาลงทุนในยูเครนมากขึ้น แม้ยังไม่มีการปิดเผยเนื้อหาของข้อตกลงมากนัก แต่มีรายงานว่า จะเป็นการเปิดทางให้สหรัฐ สามารถเข้าถึงอุตสาหกรรมประเภทอื่นของยูเครนด้วย ไม่จำกัดเพียงเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติ
Release: https://t.co/T6QS68UOop
— Treasury Department (@USTreasury) April 30, 2025
นอกจากนี้ แม้ไม่มีเนื้อหาตอนใดของข้อตกลงระบุชัดเจน เกี่ยวกับ “หลักประกันด้านความมั่นคง” ซึ่งยูเครนเรียกร้องมาตลอด แต่มีการระบุว่า ข้อตกลงฉบับนี้ “คือความสนับสนุนด้านความมั่นคงที่จับต้องได้ ซึ่งสหรัฐต้องการมอบให้แก่ยูเครน”
อนึ่ง สหรัฐและยูเครนเจรจากันเรื่องนี้มานานระยะหนึ่งแล้ว และการบรรลุข้อตกลงสอดคล้องกับความพยายามของรัฐบาลทรัมป์ ที่กำลังมีความสัมพันธ์ทางการค้าตึงเครียดกับจีน และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สหรัฐนำเข้าแร่ธาตุหายากจากจีน ซึ่งครองสัดส่วนในตลาดมากถึง 90%.
เครดิตภาพ : Treasury Department