จากกรณี นายภูมิบดินทร์ หรือ ครูต้นสน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ครูสอนนาฏศิลป์ โรงเรียนท่าขอนยางพิทยาคม อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เสียชีวิตปริศนาภายในบ้านของตนเองใน ต.นาสีนวน อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ลักษณะผูกคอตาย แต่สภาพศพกลับมีรอยทุบศีรษะและลำคอคล้ายถูกของมีคมบาด ประกอบกับสภาพแวดล้อมในที่เกิดเหตุสงสัยเป็นการฆาตกรรม ทำให้พ่อแม่ต้องร้องขอให้ตำรวจส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ขณะที่ พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม สั่งรื้อคดีเพื่อพิสูจน์ความจริง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

พ่อแม่ครูสอนนาฏศิลป์ร้องคดีลูกผูกคอตาย มีเงื่อนงำ-วอนจับคนร้ายลงโทษ

จัดชุดพระกาฬ สางคดี ‘ครูต้นสน’ จับตาเพื่อนชายคนสนิท-กลุ่มเรียนป.โท ต้องสงสัย

ผู้ใหญ่บ้านเชื่อ ‘ครูต้นสน’ ถูกฆาตกรรมอำพราง โวยวันเกิดเหตุไร้ พฐ.เก็บหลักฐาน

วิญญาณ ‘ครูต้นสน’ เฮี้ยน! เข้าฝันหลานสาว บอกถูกค้อนทุบหัว ตายอย่างทรมาน

พ่อแม่ ‘ครูต้นสน’ ลุ้นผลชันสูตรลูก เผย อีก 3 วันรู้แน่ ลั่นพร้อมยอมรับความจริง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ห้องประชุมปานรักษา บช.ภ.4 พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.4 ในฐานะโฆษก ภาค 4 พร้อม พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม และ พ.ต.อ.นพ นรชาญ รอง ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม ร่วมแถลงความคืบหน้าคดีภายหลังสถาบันนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ส่งผลการผ่าชันสูตรพลิกศพของครูต้นสน มายังตำรวจ บช.ภ.4 ทั้งนี้ พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวว่า ตามรายงานการผ่าพิสูจน์ศพ ระบุว่า สาเหตุการตายมาจากการขาดอากาศหายใจ ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สอบปากคำแพทย์ประกอบสำนวนคดีแล้ว ซึ่งแพทย์ยืนยันสาเหตุการตายดังกล่าว ส่วนรอยฟกช้ำใต้หนังศีรษะทางด้านหลัง พบว่าเกิดจากของแข็งที่ไม่มีคมกระแทก แพทย์ระบุว่า ไม่สามารถที่จะระบุว่าเป็นสาเหตุหลักของการตายได้ เนื่องจากส่วนกะโหลกศีรษะพบว่าเป็นปกติ กระดูกสันหลังส่วนคอและกระดูกอ่อนที่คอ รวมทั้งอวัยวะทุกส่วนของร่างกายก็ปกติ

ขณะที่การตรวจสถานที่เกิดเหตุของ ศพฐ. จ.มหาสารคาม ตามที่บิดามารดาของผู้เสียชีวิตสงสัยว่าร่องรอยคล้ายเลือดที่อยู่ในบ้านที่เกิดเหตุเป็นรอยคราบเลือดนั้น ผลการตรวจพิสูจน์ปรากฏว่าร่องรอยดังกล่าวไม่ใช่คราบเลือด แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นคราบอะไร ซึ่งจะทำการตรวจสอบต่อไป ส่วนจดหมายลาตายที่พบเนื้อหาเป็นการตัดพ้อของผู้ตายในทำนองว่า ดูแลพ่อแม่ได้ไม่ดีพอนั้นได้ส่งไปตรวจเปรียบเทียบที่ ศพฐ.3 จ.นครราชสีมาแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับผลตรวจเปรียบเทียบ รวมทั้งการส่งตรวจเลือดหาสารเสพติดของผู้ตาย ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ตำรวจ ก็ยังไม่ได้รับผลการตรวจพิสูจน์แต่อย่างใด

“จากการผ่าศพชันสูตรและพยานหลักฐานต่างๆ ที่ตำรวจได้สืบสวนสอบสวน ทำให้การเสียชีวิตของครูต้นสน มีแนวโน้มไปที่การผูกคอเสียชีวิตเอง ยังไม่พบหลักฐานที่ชี้ได้ว่าการเสียชีวิตมาจากการถูกผู้อื่นทำให้ตาย แต่ทั้งหมดทั้งมวลตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง เพราะยังจะต้องสืบสวนสอบสวนจนสิ้นข้อสงสัย หากทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตมีข้อมูลหรือเบาะแสใดๆ เพิ่มเติม ตำรวจก็พร้อมที่จะรับฟังและนำมาประกอบการทำคดี ซึ่งยืนยันว่าตำรวจจะทำคดีอย่างละเอียดและตรงไปตรงมา โดยคิดว่าครูต้นสนก็เป็นลูกคนหนึ่งเช่นกัน ซึ่งในท้ายที่สุดก็จะต้องส่งสำนวนการสอบสวนและพยานหลักฐานไปให้อัยการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย” พล.ต.ต.ไพศาล กล่าว

ขณะที่ พ.ต.อ.นพ กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไว้เป็นพยานทั้งหมดแล้วและครบในทุกประเด็น โดยเฉพาะเพื่อนสนิทของผู้ตายที่อยู่ด้วยเป็นคนสุดท้าย ซึ่งจากการสอบสวนก็ให้การเป็นประโยชน์และไม่พบพิรุธหรือเหตุจูงใจที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุ โดยหนึ่งในประเด็นที่เพื่อนสนิทรายนี้ให้การกับตำรวจ คือ ในคืนก่อนเกิดเหตุผู้ตายและเพื่อนสนิทคนนี้ ได้มีการเสพไอซ์ด้วยการผสมแล้วฉีดเข้าเส้นเลือด ก่อนที่ผู้ตายจะไปนั่งเขียนจดหมาย แล้วเดินออกไปจากห้อง ซึ่งในประเด็นยาเสพติดนี้ ในทางการสืบสวนพบว่าทั้งคู่ได้มีการไปซื้อเข็มฉีดยาและไอซ์จากเพื่อนที่หอพักแห่งหนึ่งจริง โดยในช่วงเสพยาไอซ์ ทั้งคู่ได้ร่วมกันเสพยาอยู่อีกห้องหนึ่งของบ้าน หลังเสพยาเสร็จผู้ตายก็ได้เดินออกจากห้องไป ก่อนที่เพื่อนสนิทจะได้ยินเสียงดังโครมคราม 1 ครั้ง ในเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันเกิดเหตุ กระทั่งกลายเป็นเหตุไม่คาดฝันขึ้น